รับซ่อมแผงวงจรอิเล็กทรอนิกส์

ลงประกาศฟรี => อื่น ๆ => ข้อความที่เริ่มโดย: ณเดช2499 ที่ เมษายน 19, 2018, 02:51:12 AM

หัวข้อ: โรคอาร์เอสวี/โรคติดเชื้อทางเดินหายใจอาร์เอสวี (Respiratory Syncytial virus infec
เริ่มหัวข้อโดย: ณเดช2499 ที่ เมษายน 19, 2018, 02:51:12 AM
(https://www.img.in.th/images/8fc15b2f9fa4608f04da360c092a017b.md.jpg)
โรคอาร์เอสวี/โรคติดเชื้อทางเดินหายใจอาร์เอสวี (http://www.disthai.com/16827802/%E0%B9%82%E0%B8%A3%E0%B8%84%E0%B8%AD%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B9%8C%E0%B9%80%E0%B8%AD%E0%B8%AA%E0%B8%A7%E0%B8%B5%E0%B9%82%E0%B8%A3%E0%B8%84%E0%B8%95%E0%B8%B4%E0%B8%94%E0%B9%80%E0%B8%8A%E0%B8%B7%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%97%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B9%80%E0%B8%94%E0%B8%B4%E0%B8%99%E0%B8%AB%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B9%83%E0%B8%88%E0%B8%AD%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B9%8C%E0%B9%80%E0%B8%AD%E0%B8%AA%E0%B8%A7%E0%B8%B5-respiratory-syncytial-virus-infection)[/u] (Respiratory Syncytial virus infection)[/size][/b]
โรคอาร์เอสวี (http://www.disthai.com/16827802/%E0%B9%82%E0%B8%A3%E0%B8%84%E0%B8%AD%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B9%8C%E0%B9%80%E0%B8%AD%E0%B8%AA%E0%B8%A7%E0%B8%B5%E0%B9%82%E0%B8%A3%E0%B8%84%E0%B8%95%E0%B8%B4%E0%B8%94%E0%B9%80%E0%B8%8A%E0%B8%B7%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%97%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B9%80%E0%B8%94%E0%B8%B4%E0%B8%99%E0%B8%AB%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B9%83%E0%B8%88%E0%B8%AD%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B9%8C%E0%B9%80%E0%B8%AD%E0%B8%AA%E0%B8%A7%E0%B8%B5-respiratory-syncytial-virus-infection) เป็นยังไง โรคอาร์เอสวี หรือโรคเชื้อไวรัสอาร์เอสวี หรือ โรคติดเชื้อทางเดินหายใจอาร์เอสวี(Respiratory syncytial virus infection ย่อว่า RSV infection) เป็นโรคติดโรคระบบทางเท้าหายใจที่เกิดขึ้นมาจากเชื้อไวรัสชื่อ Respiratory syncytial virus ซึ่งเป็นไวรัสที่นำมาซึ่งการก่อให้เกิดอาการต่างๆในระบบทางเดินหายใจ ทำให้ร่างกายผลิตสารคัดเลือกหลั่งไม่น้อยเลยทีเดียว อาทิเช่น เสมหะ ฯลฯ เชื้อไวรัสนี้แพร่ไปผ่านการไอหรือจาม โดยคนป่วยชอบมีลักษณะพื้นฐานคล้ายเป็นหวัดเป็นปวดศีรษะ จับไข้ ไอ จาม น้ำมูกไหล
                สำหรับเพื่อการติดเชื้อโรคเชื้อไวรัสอาร์เอสวี (RSV, Respiratory Syncytial Virus) จะเจอการตำหนิดเชื้อได้ตลอดทั้งปี ซึ่งโรคนี้จัดเป็นโรคติดเชื้อโรคทางเดินหายใจด้านล่างในเด็กตัวเล็กๆที่มักพบที่สุดโรคหนึ่ง โดยมีการคาดการณ์ว่าในเด็กอายุสองขวบทุกคนต้องเคยติดเชื้อประเภทนี้อย่างน้อย 1 ครั้ง  ที่จริงแล้วไวรัส RSV เป็นเชื้อไวรัสที่ทำให้ทางเดินหายใจอักเสบในคนป่วยทุกช่วงอายุ แม้กระนั้นชอบพบได้มากในเด็กตัวเล็กๆ
                ดังนี้ เชื้อไวรัสอาร์เอสวี (Respiratory syncytial virus :RSV) เจอหนแรกเมื่อปี ค.ศ 1955(พุทธศักราช2498) ในลิงชิมแปนซีที่มีอาการป่วยเป็นอาการหวัดฝูง ทำให้มีชื่อเรียกว่า Chimpanzee Coryza Agent (CCA) ก่อนจุพบว่าสามารถติดต่อไปสู่คนได้ โดยสามารถแยกเชื้อได้จากเด็กตัวเล็กๆอายุต่ำยิ่งกว่า 1 ปีที่มีอาการปอดอักเสบแล้วก็เมื่อต้นปี พุทธศักราช 2553 วารสารแลนเซต อังกฤษ รายงานผลการศึกษาเรียนรู้เกี่ยวกับเชื้อไวรัส RSV ว่า ทำให้เด็กเป็นปอดอักเสบ หรือปอดอักเสบ เสียชีวิตปีละ 2 แสนราย ซึ่งจำนวนร้อยละ 99 อยู่ในประเทศกำลังพัฒนา โดยมีเด็กอายุต่ำลงมากยิ่งกว่า 5 ปีทั้งโลก ติดเชื้อโรคเชื้อไวรัสดังที่ได้กล่าวผ่านมาแล้ว 33.8 ล้านคน ไวรัสอาร์เอสวีเป็นต้นเหตุการตายของเด็กเล็กอันดับ 1 เฉพาะในอเมริกาเด็กเสียชีวิตปีละ 2,500 กว่าคน  สำหรับเมืองไทยนั้นมีกล่าวว่าเฉพาะปี พุทธศักราช 2552 มีเด็กไทยอายุต่ำลงยิ่งกว่า 5 ปี ราว 1 ใน 4 ติดไวรัสประเภทนี้ รวมกว่า 1 หมื่นราย
ต้นเหตุของโรคอาร์เอสวี  โรคอาร์เอสวี มีสาเหตุจากเชื้อไวรัส Respiratory Syncytial Virus  (RSV) ซึ่งเป็นเชื้อไวรัสในสกุล Pneumovirus และก็อยู่ในวงศ์ Paramyxoviridae โดยเป็นไวรัสที่พบในคน โดยพบได้บ่อยอยู่ในโพรงข้างหลังจมูก แล้วก็จากการศึกษาเล่าเรียนพบว่าเชื้อไวรัสนี้สามารถก่อโรคได้ในสัตว์หลายประเภท ตัวอย่างเช่น หนู แกะ เป็นต้น  โดยปกติไวรัสอาร์เอสวีแบ่งเป็น 2 ประเภทย่อย(Subtype) คือ ชนิด เอ และก็จำพวกบี โดยชนิดย่อย A, มักมีความร้ายแรงสูงยิ่งกว่าชนิดย่อย B   เชื้อไวรัสอาร์เอสวี ขณะที่อยู่ภายในคนไข้ที่มีภูมิคุ้มกันธรรมดา เชื้อไวรัสนี้สามารถแพร่ระบาดสู่ผู้อื่นได้นานราว 1 สัปดาห์ ตั้งแต่แมื่อวันที่คนป่วยเริ่มมีลักษณะอาการ แต่หากอยู่ในคนที่มีภูมิต้านทานยับยั้งโรคต่ำจะแพร่ขยายสู่ผู้อื่นได้นานถึง 4 อาทิตย์
ลักษณะของโรคอาร์เอสวี  เชื้อไวรัส RSV  จำพวกนี้มีระยะฟักตัวราวๆ 1 – 6 วันหลังจากได้รับเชื้อ โดยส่วนมากมักไม่ค่อยออกอาการร้ายแรงในคนแก่ อาการที่เจอในคนแก่โดยปกติมักละม้ายกับลักษณะของโรคหวัดเป็นปวดหัว จับไข้ต่ำ เจ็บคอ ไอแบบไม่มีเสลด มีอาการคัดจมูก โดยอาการเหล่านี้มักหายได้เองใน 1–2 สัปดาห์  แต่ว่าในผู้เจ็บป่วยที่มีการเสี่ยงจะมีลักษณะที่รุนแรงคือคนไข้ที่มีโรคเรื้อรังเกี่ยวกับหัวใจหรือปอด หรือในผู้ป่วยที่มีสภาวะภูมิต้านทานต่ำมักนำมาซึ่งการก่อให้เกิดอาการร้ายแรง นอกจากนี้คนป่วยอีกกลุ่มที่เจอการต่อว่าดเชื้อโรคนี้ได้บ่อยและมีอาการรุนแรงคือ เด็กเล็กที่อายุน้อยกว่า 5 ขวบ โดยเฉพาะในทารกจะมีอัตราการเสี่ยงที่จะเกิดการติดเชื้อโรคในทางเดินหายใจส่วนล่างแล้วก็ทำให้โรคมีความร้ายแรงสูง
ในคนไข้ที่มีลักษณะอาการร้ายแรงอาจจะเป็นไปได้ว่าจะมีอาการเริ่มเช่นเดียวกับอาการติดเชื้อในทางเดินหายใจส่วนบนเป็น มีอาการคล้ายหวัดปกติ แม้กระนั้นหลังจากนั้น 1–2 วันอาจจะเป็นไปได้ว่าจะมีอาการแสดงของการตำหนิดเชื้อในทางเดินหายใจข้างล่างอาทิเช่น จับไข้ ไอร้ายแรง หายใจไม่สะดวกโดยอาจมีอาการหายใจเร็ว หรือมีเสียงวี๊ดขณะหายใจ
ในเด็กตัวเล็กๆซึ่งยังติดต่อสื่อสารไม่ได้ต้องอาจจะต้องอาศัยการสังเกตอาการ โดยในตอนแรกจะมีลักษณะคัดจมูกน้ำมูกไหล ซึมลง แล้วก็ทานอาหารได้น้อย ต่อไป 1–3 วัน จะมีลักษณะอาการไอ เป็นไข้ หายใจติดขัด หายใจตื้น สั้นๆเร็วๆและก็อาจจะมีเสียงตอนหายใจด้วย ในรายที่อาการร้ายแรงมากมายอาจมีอาการตัวเขียวหรือภาวการณ์ cyanosis เกิดเนื่องมาจากการขาดออกสิเจนทำให้สีผิวออกม่วงๆโดยมักจะเริ่มมองเห็นจากริมฝีปากหรือที่เล็บ นอกนั้นแล้วการติดเชื้อไวรัสอาร์เอสวีบางครั้งอาจจะนำมาซึ่งการก่อให้เกิดภาวะแทรกซ้อนของโรคอื่นๆที่พบได้มากเป็น หูชั้นกึ่งกลางอักเสบ (otitis media) หรือในภาวะแทรกซ้อนที่เกี่ยวเนื่องกับการติดเชื้อในทางเดินหายใจด้านล่างอื่นๆเช่น หลอดลมอักเสบหรือปวดบวมได้
(https://www.img.in.th/images/6427a98948041cb4de4820d1f19e6569.jpg)
กลุ่มบุคคลที่เสี่ยงต่อการเป็นโรคอาร์เอสวี



กระบวนการรักษาโรคอาร์เอสวี โดยธรรมดา แพทย์วิเคราะห์คนป่วยโรคอาร์เอสวีจากลักษณะทางสถานพยาบาล ได้แก่ ใช้เครื่องช่วยฟัง (Stethoscope) เพื่อฟังเสียงหวีดร้องในระบบฟุตบาทหายใจ เสียงรูปแบบการทำงานของปอด หรือเสียงไม่ดีเหมือนปกติจากส่วนอื่นๆภายในร่างกาย รวมทั้งอาศัยการซักเรื่องราวคนป่วยโดยวินิจฉัยจาก อายุผู้เจ็บป่วย ประวัติลักษณะของโรค การระบาดในแหล่งที่พักอาศัย การระบาดในสถานศึกษา ฯลฯ แต่ว่าบางครั้งบางคราวถ้าเกิดผู้เจ็บป่วยมีลักษณะอาการรุนแรง หมออาจต้องวิเคราะห์แยกโรคที่มีสาเหตุเนื่องมาจากการตำหนิดเชื้อไวรัสจำพวกอื่น หรือจากการต่อว่าดเชื้อแบคทีเรีย หมอก็เลยจะมีการตรวจค้นเพิ่มอีก ดังเช่นว่า



ในขณะนี้บางโรงหมออาจจะมีการตรวจรับรองหาเชื้อด้วยวิธี RSV Rapid Ag-detection test ซึ่งเห็นผลการทดลองด้านในไม่กี่ชั่วโมง   เนื่องจากว่าโรค อาร์เอสวี เป็นโรคติดเชื้อโรคที่เกิดจากเชื้อไวรัสจึงทำให้ไม่มียารักษาอาการโดยเฉพาะ ด้วยเหตุนั้นการดูแลรักษาก็เลยเป็นการรักษาตามอาการ ดังเช่น การให้ยาลดไข้ ยาขยายหลอดลม ฯลฯ ส่วนในรายที่เริ่มมีลักษณะอาการร้ายแรง ยกตัวอย่างเช่น อ่อนเพลีย หอบ มีค่าออกซิเจนในเลือดลดน้อยลง อาจมีการให้ยาพ่นขยายหลอดลม ร่วมกับการให้ออกซิเจน ในรายที่มีอาการรุนแรงมากมาย อาจจะต้องมีการใส่ท่อช่วยหายใจหรือใช้เครื่องช่วยหายใจ นอกนั้นบางทีก็อาจจะควรมีการให้สารน้ำตอบแทนเพื่อปกป้องสภาวะขาดน้ำโดยเฉพาะอย่างยิ่งในเด็ก ในรายที่มีภาวะแทรกซ้อนจากการตำหนิดเชื้ออื่นๆชอบได้รับยาฆ่าเชื้ออื่นๆที่เหมาะสมตามอาการ
การติดต่อของโรคอาร์เอสวี การติดเชื้อไวรัสอาร์เอสวีเป็นผลมาจากการติดต่อผ่านทางสารคัดหลั่งจากฟุตบาทหายใจยกตัวอย่างเช่น น้ำมูก น้ำลาย เสลด ฯลฯ และก็ไวรัสชนิดนี้สามารถทนอยู่นอกร่างกายได้หลายชั่วโมง เพราะฉะนั้นนอกเหนือจากการได้รับเชื้อผ่านการไอจามใส่กันแล้ว ยังสามารถติดต่อได้จากการสัมผัสสิ่งของที่ปนเปื้อนเชื้อไวรัสแล้วนำเข้าสู่ร่างกายผ่านทางจมูก ปากรวมทั้งเยื่อบุดวงตาได้ ตอนหลังการได้รับเชื้อผู้ป่วยสามารถแพร่เชื้อได้ตั้งแต่หลังติดโรค 2–3 วันไปจนถึง 2–3 อาทิตย์ โดยเหตุนี้ในคนไข้ที่เริ่มมีอาการแสดงควรจะลดการแพร่ระบาดเชื้อไปยังผู้อื่นโดยการใส่ผ้าปิดปาก ส่วนคนที่จำต้องคลุกคลี่กับคนป่วยก็จำเป็นต้องหมั่นล้างมือบ่อยๆรวมถึงใส่หน้ากากอนามัยทุกหนด้วยเหมือนกัน

การปฏิบัติตนเมื่อป่วยเป็นโรค อาร์เอสวี



การปกป้องตัวเองจากโรคอาร์เอสวี เพราะว่าในประเทศไทยยังไม่มีวัคซีนป้องกันเชื้อไวรัส RSV จึงทำให้มีการเสี่ยงที่จะติดโรคเชื้อไวรัสในช่วงที่แพร่ระบาดได้มาก ก็เลยควรมีการคุ้มครองป้องกันตัวเองดังต่อไปนี้



สมุนไพรที่ช่วยคุ้มครองป้องกัน/รักษาโรคอาร์เอสวี เนื่องด้วยโรคอาร์เอสวี เป็นโรคที่เกิดขึ้นจากเชื้อไวรัสและสามารถติดต่อได้ทางสารคัดหลั่งของร่างกายโดยการ ไอ จาม รดกัน ซึ่งจะเกิดการฟุ้งกระจายของละอองน้ำมูก น้ำลายของคนป่วยซึ่งหากคนที่อยู่สนิทสนม สูดเอาละอองนั้นไปก็จะมีการต่อเนื่องกันรวมทั้งการสัมผัสสารคัดหลั่งต่างๆที่ปนเปื้อนในข้าวของต่างๆของคนเจ็บด้วย ซึ่งเป็นโรคที่มีมูลเหตุ,อาการ รวมทั้งการติดต่อคล้ายกับโรคหวัดมากมาย นอกนั้นยังเป็นโรคในระบบฟุตบาทหายใจแบบเดียวกันอีกด้วย ดังนั้นสมุนไพรที่จะช่วยปกป้อง/รักษาโรคอาร์เอสวีนั้น ก็เลยเป็นสมุนไพรลักษณะเดียวกันกับโรคหวัด (อ่านหัวข้อสมุนไพรที่ช่วยป้องกัน/รักษาโรคหวัดในเรื่องหวัด)
เอกสารอ้างอิง




Tags : โรคอาร์เอสวี/โรคติดเชื้อทางเดินหายใจอาร์เอสวี