รับซ่อมแผงวงจรอิเล็กทรอนิกส์

ลงประกาศฟรี => อื่น ๆ => ข้อความที่เริ่มโดย: กาลครั้งหนึ่ง2560 ที่ เมษายน 17, 2018, 02:14:57 AM

หัวข้อ: โรคมือเท้าปาก - อาการ, สาเหตุ, การรักษา-เเละ สมุนไพร
เริ่มหัวข้อโดย: กาลครั้งหนึ่ง2560 ที่ เมษายน 17, 2018, 02:14:57 AM
(https://www.img.in.th/images/9cd86b1b740e69145d8352166d1af692.md.jpg)
โรคมือเท้าปาก  (Hand Foot and Mouth  disease – HFMD)
โรคมือเท้าปาก (http://www.disthai.com/16828313/%E0%B9%82%E0%B8%A3%E0%B8%84%E0%B8%A1%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%9B%E0%B8%B2%E0%B8%81-hand-foot-and-mouth-disease-hfmd) เป็นยังไง โรคมือ-เท้า-ปาก เจ็บป่วยออกผื่นชนิดหนึ่งที่ต่อเนื่องกันง่าย แต่ว่ามักไม่ร้ายแรงแล้วก็หายได้เองเป็นส่วนมาก ส่วนน้อยที่อาจมีภาวะแทรกซ้อนรุนแรง ซึ่งโรค มือเท้าปาก เป็นโรคที่พบได้บ่อยในเด็กตัวเล็กๆ โดยเฉพาะช่วงหน้าฝน มักเกิดขึ้นได้เพราะมีสาเหตุเนื่องมาจากไวรัสกรุ๊ป Enterovirus  แต่ในแถบร้อนชื้น พบมากได้ทั้งปีโดยส่วนมากแล้ว พบได้บ่อยในเด็กอายุน้อยกว่า 5 ปีแต่ว่าบางทีอาจพบในเด็กอายุมากกว่านี้ก็ได้ รวมทั้งถ้าเกิดมีการกำเนิดโรคในสถานเลี้ยงเด็กหรือในโรงเรียนสำหรับสอนเด็กอนุบาล ก็จะพบคนป่วยเป็นจำนวนมากขึ้นเนื่องจากว่าโรคนี้ระบาดได้ง่าย
                อนึ่งโรคนี้เป็นโรคคนละชนิดกับโรคปากเปื่อยยุ่ยเท้าเปื่อยยุ่ยที่พบได้ในสัตว์กีบคู่ ซึ่งโดยปกติจะไม่ติดต่อมาสู่คน ยกเว้นในกรณีที่คนไปสัมผัสคลุกคลีอยู่กับสัตว์ที่ป่วยหรือผู้ที่ทำงานในห้องแลปเกี่ยวกับโรคในสัตว์กลุ่มนี้ ที่อาจมีรายงานการติดเชื้อได้บ้าง
                ในความเป็นจริงแล้ว โรคมือ เท้า ปาก ว่าไม่ใช่โรคใหม่ แต่ว่ารู้จักกันมานานมากกว่า 50 ปีแล้ว  โดยมีประวัติความเป็นมาของโรค ดังนี้



จากนั้นก็มีรายงานการระบาดจากประเทศต่างๆทั้งโลก ซึ่งไวรัสที่ก่อให้เกิดกรุ๊ปอาการมือ เท้า ปาก ไม่ได้มีสาเหตุมาจากไวรัสชนิดเดียวแต่ว่ามีมากยิ่งกว่า 10 สายพันธุ์
สำหรับการระบาดใหญ่ของกรุ๊ปลักษณะของโรคมือ เท้า ปาก พบว่ามีรายงานตั้งแต่ พ.ศ.2540-2555 มีดังนี้



สำหรับเหตุการณ์โรคมือเท้าปากในประเทศไทย อ้างอิงข้อมูลจากกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข พบว่า ในปี 2558 มีคนไข้ทั้งหมดทั้งปวง 40,417 ราย คิดเป็นอัตราส่วน 62.21 ต่อราษฎร 1 แสนคน แล้วก็มีคนป่วยเสียชีวิต 3 ราย ส่วนในปี 2559 ข้อมูลล่าสุดในวันที่ 28 มีนาคม 2559 มีคนเจ็บ 8,973 ราย คิดเป็นอัตราส่วน 13.78 ต่อสามัญชน 1 แสนคน รวมทั้งยังไม่มีคนตาย
ตั้งแต่เริ่มมีการตรวจพบเชื้อ EV71 ในผู้ป่วยโรค HFMD ในปี2541 ในประเทศไทยก็เริ่มมีการเฝ้าระวังรายงานแล้วก็ซักถามผู้ป่วยสงสัยติดเชื้อ EV71 และป้องกันควบคุมโรคนับจากนั้นมา พบว่าผู้เจ็บป่วยส่วนใหญ่เป็นเด็กอายุต่ำยิ่งกว่า 2 ปีและราวครึ่งเดียวติดเชื้อโรค EV71 ที่มีลักษณะอาการไม่รุนแรง
ส่วนในด้านรายงานการแพร่ระบาดของโรคมือเท้าปากจากสำนักระบาดวิทยา พบว่า เมื่อวันที่ 1 ม.ค. ถึง 1 เมษายน 2559 มีการระบาดเป็นกลุ่มก้อนทั้งยังตามโรงเรียนแล้วก็ในชุมชน 8 เหตุ จากปริมาณคนไข้ 22 ราย ทั้งนี้ ทางกระทรวงสาธารณสุขได้แนะนำให้สถานศึกษาทำตามมาตรการที่กรมควบคุมโรคกำหนด เพื่อคุ้มครองป้องกันการเกิดโรคแล้วก็การแพร่ระบาดของโรค
สิ่งที่ทำให้เกิดโรคมือเท้าปาก โรคมือเท้าปากมีต้นเหตุจากการติดเชื้อกรุ๊ปเชื้อไวรัสเอนเทอโร (Enterovirus) ซึ่งมีอยู่ด้วยกันหลากหลายสาย ยกตัวอย่างเช่น ค็อกแซคกีเอและก็บี (Coxsackie A, B), เชื้อไวรัสเอนเทอโรจำพวก 71 (Enterovirus 71 – EV71) ปัจจัยที่พบมากที่สุดก็คือการระบาดจากการติดเชื้อไวรัสค็อกแซคกีเอชนิด 16 (Coxsackievirus A 16) ซึ่งอาการชอบไม่ร้ายแรง แล้วก็ผู้เจ็บป่วยชอบหายได้เองเป็นส่วนใหญ่ ส่วนสาเหตุที่พบได้น้อยและมีลักษณะอาการรุนแรง คือ การตำหนิดเชื้อไวรัสเอนเทอโรจำพวก 71 ซึ่งอาจจะเป็นผลให้คนเจ็บเกิดภาวะสอดแทรกร้ายแรงจนกระทั่งขั้นเสียชีวิตได้ ยิ่งไปกว่านี้โรคมือเท้าปากยังบางทีอาจเกิดได้จากเชื้อไวรัสค็อกแซคกีเอชนิด 5, 7, 9, 10 รวมทั้งเชื้อไวรัสค็อกแซคกีบีประเภท 2 รวมทั้ง 5 ได้บ้าง
                ซึ่งโรคนี้โดยมากชอบต่อเนื่องกันจากการกินของกิน น้ำกิน การดูดเลียนิ้วมือ หรือของเล่นเด็กที่แปดเปื้อนเชื้อที่ออกมากับอุจจาระ น้ำเหลืองจากตุ่มน้ำที่ผิวหนัง หรือละอองน้ำมูก น้ำลายของคนไข้ ส่วนน้อยที่ติดต่อโดยการสูดเอาฝอยละอองน้ำมูก น้ำลายที่ผู้เจ็บป่วยไอหรือจามรด  ซึ่งเมื่อเชื้อไปสู่ร่างกายแล้ว ราว 3-6 วัน คนไข้จึงจะมีลักษณะอาการ
ลักษณะโรคมือเท้าปาก  หลังจากติดโรค 3-7 วัน คนไข้จะเริ่มแสดงอาการเริ่มหมายถึงจับไข้ตํ่าๆโดยประมาณ 38-39o C และมีลักษณะปวดเนื้อปวดตัวระยะนี้จะมีช่วงเวลา ราวๆ 1-2 วัน หลังจากนั้นจะเริ่มมีลักษณะเจ็บปาก ตรวจร่างกายจะพบมีรอยโรคในบริเวณปาก มือและก็เท้าได้ดังต่อไปนี้



จำนวนร้อยละ 80 ของคนป่วยลักษณะของการเจ็บปากจะไม่ร้ายแรงแล้วก็หายได้เองโดยไม่ต้องรักษาข้างใน 5-10 วัน



บางทีอาจเกิดขึ้นพร้อมรอยโรคที่ปาก หรือต่อจากนั้นเล็กน้อยจํานวนตั้งแต่ 2-3 แห้งไปจนถึง 100 แห่ง เจอ ที่มือหลายครั้งกว่าเท่า ลักษณะเป็นรอยแดงๆอาจนูนนิดหน่อยขนาด 2-10 มิลลิเมตร ตรงกลางสีเทา บางรอยโรคมี ลักษณะเป็นตุ่มนํ้าใสขอบแดง มีกระจัดกระจายขนานไปกับแนวของผิวหนังบางทีอาจเจ็บหรือไม่ก็ได้จากนั้น 2-3 วัน จะ เริ่มตกสะเก็ด รวมทั้งค่อยๆหายไปภายใน 7-10 วัน โดยไม่มีรอยแผลเป็นหลงเหลือ
รอบๆอื่นๆที่บางทีอาจเจอรอยโรคได้เช่นกัน คือ ก้น แขน ขา และก็อวัยวะสืบพันธุ์ในเด็กอ่อนบางทีอาจพบ กระจายทั่วตัวได้
โดยธรรมดาโรคมือเท้า ปากจัดว่ามีอาการน้อยส่วนใหญ่มักมีเพียงแต่ไข้ปวดเหมื่อยตามตัวรวมทั้งเจ็บปาก แม้กระนั้น ในคนไข้บางรายอาจพบภาวะแทรกซ้อนที่ร้ายแรงได้โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากการต่อว่าดเชื้อ enterovirus 71 ปัจจัยเสี่ยงต่อ การเจอภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรง คือ



ซึ่งปัจจัยเสี่ยงในข้อ 2 แล้วก็ 3 จากการศึกษาที่โรงหมอเด็ก Chang Gung ประเทศไต้หวัน พบว่า สมาคมกับการต่อว่าดเชื้อ EV มากยิ่งกว่า Cox A  โดยมักจะทำให้เกิดภาวะแทรก/ทางระบบประสาท ระบบหัวใจ รวมทั้งปอดได้สูง ทำให้ผู้ป่วยเสียชีวิตอย่างเร็วจากสภาวะปอดบวมน้ำ เลือดออกในปอด รวมทั้งภาวการณ์ช็อก
แม้กระนั้นเชื้อคอกแซคก็เชื้อไวรัส เอ 16 ก็อาจทำให้เกิดภาวะเข้าแทรกเป็น กล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ เยื่อหุ้มหัวใจอักเสบ แล้วก็ภาวะช็อกได้ แต่พบได้น้อยกว่าจากเชื้อ เอนเทอโรไวรัส 71 มาก
ปัจจัยเสี่ยงที่จะก่อให้เกิดโรคมือเท้าปาก (http://www.disthai.com/16828313/%E0%B9%82%E0%B8%A3%E0%B8%84%E0%B8%A1%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%9B%E0%B8%B2%E0%B8%81-hand-foot-and-mouth-disease-hfmd)[/url] [/size][/b]

แนวทางการรักษาโรคมือ เท้าปาก การวินิจฉัยโรคมือเท้าปากโดยทั่วไปใช่อาการและอาการแสดงเป็นสําคัญ (clinical diagnosis) โดยแพทย์จะตรวจร่างกายหารอยโรคจําเพาะที่บริเวณมือเท้า ปากร่วมกับมีไข้ ได้แก่  ผู้ป่วยมีไข้ 38 – 39 องศาเซลเซียส  พบจุดนูนแดง ตุ่มน้ำใส หรือ แผลที่เยื่อบุปาก ลิ้น และเหงือก พบจุดแดงราบ ตุ่มนูน หรือตุ่มน้ำที่มือ เท้า ฝ่ามือ ฝ่าเท้า และแก้มก้น
การตรวจรอยโรคที่ผิวหนัง (cutaneous lesion) ทางพยาธิวิทยา(histology) จะพบเม็ดเลือดขาวชนิด neutrophil และ lymphocyte เพิ่มขึ้น แต่จะไม้พบmultinucleated giant cell หรือ inclusion body 11 สําหรับในกรณีที่ต้องการทราบชนิดของเชื้อไวรัสที่ก้อโรค สามารถทําได้โดยการแยกเชื้อไวรัส หรือตรวจ ร่องรอยการติดเชื้อจากนํ้าเหลือง สําหรับประเทศไทยใช้วิธี micro-neutralization หากพบผู้ป่วยในข่ายสงสัยให้ เก็บตัวอย่างดังนี้



โรคมือเท้าปากไม่มีวัคซีนหรือยาสำหรับรักษาโรคโดยตรง การรักษาจะเป็นการรักษาตามอาการ เช่นการให้ยาลดไข้ paracetamol หรือให้ยาบ้วนปากเพื่อช่วยลดอาการเจ็บของแผลในช่องปาก ถ้าตุ่มกลายเป็นหนองหรือพุพองก็จะให้ยาปฏิชีวนะ เช่น เพนิซิลลินวี อะม็อกซีซิลลิน อีริโทรไมซิน เป็นต้น ถ้ามีภาวะขาดน้ำเนื่องจากกินและดื่มไม่ได้ ก็จะให้สารน้ำทางหลอดเลือดดำ ในรายที่มีภาวะแทรกซ้อนรุนแรง ก็จำเป็นต้องรับเด็กไว้รักษาในโรงพยาบาลหรือส่งต่อให้ผู้เชี่ยวชาญดูแลต่อไป
อย่างไรก็ตาม ในปี พ.ศ.2539 มีการศึกษาที่ Medical College of Ohio ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยมีการทดลองใช้ acyclovir ในการรักษาผู้ป่วยโรคมือเท้า ปาก 13 รายซึ่ง 12 รายเป็นเด็กอายุ 1-5 ปีและอีก 1 รายเป็นผู้ใหญ่ โดยเริ่มใช้ยา acyclovir ภายใน 1-2 วัน หลังเริ่มมีรอยโรคพบว่าอาการของผู้ป่วยดีขึ้น และรอยโรคเปลี่ยนแปลงดี ขึ้นภายใน 24 ชั่วโมงหลังเริ่มรักษา ได้ให้ acyclovir ต่ออีก 5 วันจนรอยโรคหายไปหมด ผู้ศึกษาเชื่อว่า acyclovir อาจไปยับยั้งเอนไซม์ thymidine kinase ของ Cox A16แต่ก็อาจมีประโยชน์ ด้านอื่นด้วยเช่น อาจทําให้ผู้ป่วยสร้าง interferon เพื่อยับยั้งไวรัสมากขึ้น15 อย่างไรก็ดียังไม่มีการศึกษาเกี่ยวกับการใช้ acyclovir ในการ ลดภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรง
และหลังจากการติดเชื้อผู้ป่วยจะมีภูมิคุ้มกันต่อเชื้อไวรัสที่ก่อโรค แต่อาจเกิดโรคมือเท้า ปากซํ้าได้จาก enterovirus ตัวอื่นๆ
การติดต่อของโรค มือ เท้า ปาก  โรคมือเท้าปากสามารถติดต่อได้จากการสัมผัสสารคัดหลั่งจากตุ่มน้ำใส หรือสารคัดหลั่งจากจมูกและปากอันได้แก่ น้ำมูก เสมหะ หรือน้ำลาย นอกจากนี้แล้วไวรัสยังสามารถพบได้ในอุจจาระ โดยไวรัสสามารถแพร่กระจายได้ตั้งแต่ในระยะแรกที่แสดงอาการโดยช่วงที่มีการแพร่กระจายมากที่สุด คือ สัปดาห์แรกที่ผู้ป่วยมีอาการและอาจจะยังพบได้อีกหลายสัปดาห์ในอุจจาระของผู้ป่วยที่หายจากอาการของโรคแล้ว นอกจากนี้แล้วในผู้ใหญ่อาจจะสามารถแพร่กระจายเชื้อไวรัสได้โดยไม่แสดงอาการใดๆ ซึ่งการได้รับไวรัสอาจเป็นการได้รับโดยตรงเช่นจากการไอหรือจาม หรืออาจจะได้รับไวรัสโดยอ้อมโดยการสัมผัสกับพื้นผิวหรือสิ่งของที่มีเชื้อไวรัสอยู่ เช่นในสถานรับเลี้ยงเด็กซึ่งอาจมีของเล่นหรือของใช้เด็กที่ปนเปื้อนน้ำลายเนื่องจากเด็กเล็กมักชอบนำสิ่งของเข้าปาก  ดูดเลียนิ้วมือ รวมถึงจากการรับประทานอาหารหรือน้ำดื่มที่ปนเปื้อนเชื้อ มือของผู้เลี้ยงดูเด็กที่ไม่สะอาด เป็นต้น  เนื่องจากโรคมือเท้าปากมักพบในเด็กเล็ก ดังนั้นการระบาดมักพบในสถานรับเลี้ยงเด็กหรือตามโรงเรียนอนุบาล  เชื้อเอนเทอโรไวรัสสามารถทนสภาวะกรดในทางเดินอาหารมนุษย์ได้ และมีชีวิตอยู่ในอุณหภูมิห้องได้ 2-3วัน
โดยเฉพาะในสภาพแวดล้อมที่ค่อนข้างเย็นหรือชื้นแฉะเชื้ออาจอยู่ได้เป็นเดือน  นอกจากนี้ การทำลายเชื้อต้องใช้น้ำยาฆ่าเชื้อที่เหมาะสม น้ำยาฆ่าเชื้อทั่วๆ ไปบางชนิด เช่น แอลกอฮอล์ ๗๐ เปอร์เซ็นต์และแอลกอฮอล์เจลใช้ป้องกันไวรัสไข้หวัดได้ แต่สำหรับเชื้อไวรัสเอนเทอโร แอลกอฮอล์ไม่มีผลโดยตรง
การปฏิบัติตนเมื่อป่วยเป็นโรคมือ เท้า ปาก เนื่องจากโรคนี้เกิดจากเชื้อไวรัส ไม่จำเป็นต้องให้ยารักษาจำเพาะ เพียงแต่ให้การดูแลตามอาการ และเฝ้าติดตามอาการเปลี่ยนแปลงอย่างใกล้ชิด โดยมีวิธีปฏิบัติ ดังนี้

(https://www.img.in.th/images/d85d64ba2400468569e72361ef745dd5.jpg)
การปกป้องตนเองจากโรคมือเท้าปาก



สมุนไพรที่ใช้รักษา/บรรเทาอาการของโรคมือเท้าปาก สมุนไพรที่สามารถนำมาใช้บรรเทาอาการของโรคมือเท้าปากนั้นมีดังนี้ แม้มีแผลในปากก็สามารถใช้กลีเซอรีนพญายอหยอดบริเวณแผลได้ เนื่องจากในใบพญายอมีสารฟลาโวนอยด์ มีฤทธิ์ต้านทานการอักเสบ ทำให้แผลหายเร็วขึ้นและไม่มีอันตราย ไม่มีผลข้างเคียง
            สมุนไพรในโรค มือ-เท้า-ปากเป็นฟ้าทลายมิจฉาชีพ (Andrographis paniculata (Burm.F.) Nees.) เป็นงานศึกษาเรียนรู้และค้นคว้าและทำการวิจัยที่ทำในประเทศจีน โดยนักค้นคว้าได้สกัดสารสำคัญของฟ้าทลายโจรรวมทั้งทำให้อยู่ในลักษณะของยาฉีดหมายถึงAndrographolide Sulfonate injection
งานค้นคว้าวิจัยนี้ทำในเด็กที่เป็นโรค มือ-เท้า-ปาก อายุ 1-13 ปี จำนวน 230 คน โดยแบ่งเป็น 2 กรุ๊ป กรุ๊ปแรกจะได้รับการดูแลและรักษาแบบแผนเดิมร่วมกับ สารสกัดฟ้าทะลายมิจฉาชีพในแบบอย่างบาฉีด (Andrographolide Sulfonate injection) อีกกลุ่มจะได้รับการดูแลรักษาแบบแผนเดิม โดยติดตามผล 7-10 วัน ผลวิจัยพบว่า กรุ๊ปแรกจะพบอาการสอดแทรกแบบรุนแรงน้อยกว่ากรุ๊ปที่สองอย่างมีนัยสำคัญ นอกจากนั้นยังเป็นเหตุให้ไข้ลดน้อยลงได้เร็วขึ้น ทำให้แผลที่ผิวหนังรวมทั้งแผลในปากหายมากกว่ากรุ๊ปหวานใจษาแบบแผนเดิม และไม่พบการตายรวมถึงผลกระทบที่รุนแรงในกลุ่มทดลองอีกด้วย
เอกสารอ้างอิง