รับซ่อมแผงวงจรอิเล็กทรอนิกส์

ลงประกาศฟรี => อื่น ๆ => ข้อความที่เริ่มโดย: หนุ่มน้อยคอยรัก007 ที่ เมษายน 02, 2018, 11:40:07 AM

หัวข้อ: โรคไส้ติ่งอักเสบ - อาการ, สาเหตุ, การรักษา-เเละ สมุนไพร
เริ่มหัวข้อโดย: หนุ่มน้อยคอยรัก007 ที่ เมษายน 02, 2018, 11:40:07 AM
(https://www.img.in.th/images/700443a20ab14aa66962d4229755bee5.jpg)
โรคไส้ติ่งอักเสบ (Appendicitis)
โรคไส้ติ่งอักเสบ (http://www.disthai.com/16865730/%E0%B9%82%E0%B8%A3%E0%B8%84%E0%B9%84%E0%B8%AA%E0%B9%89%E0%B8%95%E0%B8%B4%E0%B9%88%E0%B8%87%E0%B8%AD%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B9%80%E0%B8%AA%E0%B8%9A-appendicitis)เป็นอย่างไร  ไส้ติ่ง (Vermiform appendix) เป็นส่วนเพิ่มเติมของลำไส้ที่ยื่นออกมาจากกระพุ้งไส้ใหญ่ (Cecum) ไส้ติ่งมีรูปร่างเสมือนถุงยาวๆขนาดเท่านิ้วก้อย ยื่นออกมาจากลำไส้ใหญ่ อยู่ตรงบริเวณท้องน้อยข้างขวา โดยมีลักษณะเป็นถุงแคบรวมทั้งยาว มีขนาดกว้างเพียงแต่ 5-8 มิลลิเมตร แล้วก็มีความยาวหรือก้นถุงลึกโดยเฉลี่ย 8-10 เซนติเมตร (ในคนแก่) ข้างในมีรูติดต่อกับลำไส้ใหญ่ส่วนต้น ผนังด้านในของไส้ติ่งมีเยื่อต่อมน้ำเหลืองกระจายอยู่ ซึ่งเป็นเยื่อมีการอักเสบได้ง่าย โดยเยื่อนี้จะมีการเพิ่มปริมาณมากตอนวัยรุ่น ก็เลยพบไส้ติ่งอักเสบเกิดได้หลายครั้งในวัย รุ่น ไส้ติ่งถือเป็นส่วนหนึ่งของลำไส้ใหญ่ที่ฝ่อตัวลงและไม่ได้ปฏิบัติภารกิจสำหรับในการย่อยแล้วก็ซึมซับอาหาร เหตุเพราะเป็นท่อขนาดเล็กปลายตัน เมื่อมีการอักเสบก็เลยทำให้เนื้อฝาผนังไส้ติ่งเน่าตายรวมทั้งเป็นรูทะลุในเวลาอันรวดเร็วทันใจได้
ไส้ติ่งอักเสบคือ อาการบวมและก็ติดโรคของไส้ติ่งนับเป็นอาการที่เกิดขึ้นอย่างกระทันหันรวมทั้งอันตราย ซึ่งจำเป็นจะต้องได้รับการผ่าตัดอย่างเร่ง ด่วน เพราะเหตุว่าถ้าหากว่าทิ้งไว้นาน ไส้ติ่งที่อักเสบมักแตกกระจายเชื้อโรคสู่ช่องท้อง แล้วก็บางทีอาจเป็นสา เหตุรุนแรงจนถึงติดโรคในกระแสเลือดจนถึงขั้นเสียชีวิตได้
โดยการตายโดยมากของโรคไส้ติ่งอักเสบมีเหตุมาจากภาวการณ์เยื่อบุช่องท้องอักเสบและก็สภาวะช็อค โรคไส้ติ่งอักเสบได้รับการอธิบายเป็นครั้งแรกโดย Reginald Fitz ในปี พุทธศักราช 2429 เดี๋ยวนี้ได้รับการยินยอมรับว่าเป็นเลิศในสิ่งที่ทำให้เกิดลักษณะของการปวดท้องร้ายแรงกระทันหันที่มักพบที่สุดทั่วทั้งโลกรวมทั้ง โรคไส้ติ่งอักเสบยังพบเป็นสาเหตุลำดับแรกๆของโรคเจ็บท้อง ที่จำเป็นต้องรักษาด้วยวิธีผ่าตัดเร่งด่วน บ่อยที่ค้นพบว่าคนไข้ปลดปล่อยให้มีลักษณะอาการปวดท้องนานยาวนานหลายวันแล้วพอหลังจากนั้นก็ค่อยมาโรงหมอ  ซึ่งชอบพบว่าเป็นถึงกับขนาดไส้ติ่งแตกแล้ว ไส้ติ่งอักเสบเป็นโรคที่พบได้มาก เกิดขึ้นได้กับทุกเพศทุกวัย ตั้งแต่เด็กอายุ 2 ขวบไปจนถึงคนแก่ หรือแม้กระทั่งหญิงมีท้อง แต่ว่าจะมักพบในช่วงอายุ 10-30 ปี (เจอได้น้อยในคนวัยชรา เนื่องจากว่าไส้ติ่งตีบยุบมีเนื้อเยื่อหลงเหลือน้อย รวมทั้งในเด็กอายุน้อยกว่า 3 ปี เนื่องจากว่าโคนไส้ติ่งยังออกจะกว้าง) ในเพศหญิงและก็เพศชายได้โอกาสเป็นโรคนี้ได้เท่าๆกัน และก็มีการคาดทำนองว่าในตลอดกาลของคนเราจะได้โอกาสเป็นโรคนี้ราว 7% ในปีๆหนึ่งจะมีคนป่วยเป็นโรคนี้ประมาณ 1 ใน 1,000 คน
สิ่งที่ทำให้เกิดโรคไส้ติ่งอักเสบ ไส้ติ่งอักเสบ มีต้นเหตุจากมีสภาวะอุดกั้นของรูไส้ติ่ง ส่วนการอุดกันนั้นส่วนใดส่วนหนึ่งเป็นการเกิดขึ้นเองโดยไม่เคยทราบสาเหตุแน่ชัด แม้กระนั้นส่วนหนึ่งมีเหตุที่เกิดจากมีเศษอุจจาระแข็งเรียกว่า "นิ่วอุจจาระ" (fecalith) ชิ้นเล็กๆตกลงไปอุดกั้นอยู่ข้างในรูของไส้ติ่ง แล้วทำให้เชื้อแบคทีเรียที่อาศัยอยู่ในรูไส้ติ่งปริมาณน้อยมีการเจริญรุ่งเรืองขยายพันธุ์และรุกล้ำเข้าไปในฝาผนังไส้ติ่ง กระทั่งเกิดการอักเสบตามมา ถ้าหากปลดปล่อยไว้เพียงแต่ไม่กี่วัน ผนังไส้ติ่งก็เกิดการเน่าตายรวมทั้งแตกทะลุได้ รวมทั้งมูลเหตุที่เจอได้รองลงมาคือ มีเหตุมาจากเนื้อเยื่อต่อมน้ำเหลือง (Lymphoid tissue) ที่ฝาผนังไส้ติ่งที่หนาตัวขึ้นตามการอักเสบต่างๆที่เกิดขึ้นในร่างกาย นอกเหนือจากนี้อาจเป็นเพราะเนื่องจากสิ่งปลอมปน (ได้แก่ เมล็ดผลไม้), หนอนพยาธิ (ที่สำคัญเป็น พยาธิไส้เดือน พยาธิด้าย พยาธิตืดหมู) หรือเนื้องอก หรือบางเวลาก็อาจเป็นเพราะเนื่องจากการตำหนิดเชื้อที่ระบบทางเท้าหายใจส่วนบน ที่ทำให้ต่อมน้ำเหลืองทั่วร่างกาย และก็ต่อมน้ำเหลืองในไส้ติ่งมีการปฏิกิริยาตอบสนองด้วยการขยายตัวขึ้นจนไปห้ามไส้ติ่ง และทำให้ไส้ติ่งที่อาจมีเชื้อโรคอาศัยอยู่เกิดอาการอักเสบท้ายที่สุด ในคนไข้บางรายอาจเป็นไส้ติ่งอักเสบที่เกิดขึ้นจากเชื้อไวรัสไซโตเมกะโล (Cytomegalovirus)  ซึ่งชอบเจอได้ในคนไข้โรคภูมิคุมกันบกพร่อง และก็บางรายอาจเป็นไส้ติ่งอักเสบโดยที่หมอไม่รู้จักสาเหตุเลยก็ได้
ลักษณะของโรคไส้ติ่งอักเสบ อาการสำคัญของโรคไส้ติ่งอักเสบนั้นเป็น คนป่วยจะมีลักษณะปวดท้องที่มีลักษณะต่อเนื่องรวมทั้งปวดแรงขึ้นนานเกิน 6 ชั่วโมงขึ้นไป หากมิได้รับการดูแลรักษาก็ชอบปวดอยู่นานยาวนานหลายวัน กระทั่งคนเจ็บทนปวดไม่ไหวต้องพาส่งโรงพยาบาล ซึ่งลักษณะของไส้ติ่งอักเสบนั้นบางทีอาจแบ่งได้สองประเภท คือประเภทขวานผ่าซากและจำพวกไม่ตรงไปตรงมาดังนี้ ประเภทตรงไปตรงมาแต่เดิมบางทีอาจปวดแน่นตรงลิ้นปี่คล้ายโรคกระเพาะ บางบุคคลอาจปวดบิดเป็นช่วงๆรอบๆสะดือ คล้ายอาการปวดแบบท้องเสีย อาจเข้าส้วมหลายครั้ง แต่ถ่ายไม่ออก (แม้กระนั้นบางคนอาจมีอาการถ่ายเป็นน้ำหรือ ถ่ายเหลวร่วมด้วย)ต่อมาจะมีลักษณะอาการอ้วก คลื่นไส้ เบื่อข้าวร่วมด้วย ลักษณะของการปวดท้องมักจะไม่ดีขึ้นกว่าเดิม แม้ว่าจะรับประทานยาพาราใดๆ ถัดมาอีก 3-4 ชั่วโมง อาการปวดจะย้ายมาที่ท้องน้อยข้างขวา มีลักษณะปวดเสียดตลอดระยะเวลา และก็จะเจ็บเพิ่มขึ้นเรื่อยๆเมื่อมีการขยับเขยื้อนตัว หรือเวลาเดินหรือไอจาม คนเจ็บจะนอนนิ่งๆถ้าเป็นมากคนไข้จะนอนงอขา ตะแคงไปข้างหนึ่ง หรือเดินตัวงอ เพื่อรู้สึกสบายขึ้น  เมื่อถึงขั้นที่มีอาการอักเสบของไส้ติ่งแจ่มแจ้ง มีวิธีตรวจอย่างง่ายๆคือ ให้คนป่วยนอนหงายแล้วใช้มือกดลงลึกๆหรือใช้หมัดตีเบาๆตรงรอบๆไส้ติ่ง (ท้องน้อยข้างขวา)คนป่วยจะรู้สึกเจ็บมากมาย (เรียกว่า อาการกดเจ็บ) คนไข้อาจมีไข้ต่ำๆ(อุณหภูมิ 37.7-38.3 องศาเซลเซียส) ส่วนประเภทไม่ตรงไปตรงมานั้นอาจจะเริ่มจากมีลักษณะปวดเริ่มที่หน้าท้องข้างล่างขวาตั้งแต่ต้น ท้องร่วง และมีการดำเนินโรคที่นานค่อยๆเป็น ค่อยๆไปกว่าชนิดไม่อ้อมค้อม ถ้าไส้ติ่งที่อักเสบสัมผัสกับกระเพาะปัสสาวะอาจทำให้มีลักษณะฉี่บ่อย หากไส้ติ่งที่อักเสบอยู่ด้านหลังลำไส้เล็กช่วงปลายอาจมีอาการคลื่นไส้รุนแรงได้ บางรายอาจรู้สึกปวดเบ่ง
(https://www.img.in.th/images/4b66a91d90c7f7d37c24ee8660945318.jpg)
ส่วนผู้ป่วยในกลุ่มที่เป็นเด็ก หรือสตรีตั้งครรภ์ อาจมีอาการบางสิ่งที่แตกต่างจากคนปกติทั่วไป ดังต่อไปนี้



คนป่วยโรคไส้ติ่งอักเสบหากมิได้รับการดูแลและรักษาโดยการผ่าตัดภายใน 24-36 ชั่วโมงหลังมีการอักเสบ ไส้ติ่งจะขาดเลือดเปลี่ยนเป็นเนื้อเน่ารวมทั้งตาย ในที่สุดฝาผนังของไส้ติ่งที่เปื่อยยุ่ยจะแตกทะลุ หนองแล้วก็สิ่งสกปรกข้างในลำไส้จะไหลออกมาในท้อง ทำให้เปลี่ยนเป็นเยื่อบุช่องท้องอักเสบ (Peritonitis) รวมทั้งถ้าเชื้อแบคทีเรียแพร่กระจายไปสู่กระแสโลหิตก็จะมีการติดเชื้อในกระแสเลือด ก่อให้เกิดอันตรายจนถึงขั้นเสียชีวิตได้
กรรมวิธีรักษาโรคไส้ติ่งอักเสบ เป็นโรคที่มีปัญหาสำหรับการวิเคราะห์ให้ที่ถูกต้องค่อนข้างจะมากมาย คนป่วยบางรายได้รับการวิเคราะห์ว่าเป็นโรคนี้ แม้กระนั้นเมื่อผ่าตัดเข้าไปก็พบว่าไส้ติ่งไม่มีการอักเสบ ผู้เจ็บป่วยบางรายแม้จะไปพบหมอแต่ก็ได้รับการวิเคราะห์ว่าเป็นโรคอื่น จนถึงไส้ติ่งแตกแล้วจึงได้รับการดูแลและรักษาวิเคราะห์ที่ถูกต้อง เด็กที่อายุน้อยกว่า 2 ขวบดูเหมือนจะทุกรายมักจะวินิจฉัยโรคนี้ได้ภายหลังจากการแตกของไส้ติ่งแล้ว ในเด็กตัวเล็กๆแล้วก็ผู้เจ็บป่วยเฒ่าพบว่าบางทีอาจเกิดปัญหาร้ายแรง ถ้าได้รับการวินิจฉัยและก็รักษาโรคล่าช้าเนื่องจากมีภูมิคุ้มกันต่ำ
                การวินิจฉัยโรคไส้ติ่งอักเสบ (http://www.disthai.com/16865730/%E0%B9%82%E0%B8%A3%E0%B8%84%E0%B9%84%E0%B8%AA%E0%B9%89%E0%B8%95%E0%B8%B4%E0%B9%88%E0%B8%87%E0%B8%AD%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B9%80%E0%B8%AA%E0%B8%9A-appendicitis) การวินิจฉัยโรคในคนไข้โดยมากอาศัยลักษณะทางสถานพยาบาล (clinical menifestation) เป็นอาการและก็การตรวจเจอเป็นหลัก ส่วนการตรวจทางห้องปฎิบัติการและก็การค้นทางรังสีวิทยา (radiologic investigation) หรือการตรวจเพิ่มเติมอื่นๆมีความสำคัญน้อย มีสาระเฉพาะในคนเจ็บบางรายที่ลักษณะทางสถานพยาบาลไม่กระจ่างเพียงแค่นั้นโดยมีวิธีการวิเคราะห์ดังต่อไปนี้



                          - คลื่นไส้ อ้วก อาการนี้เจอได้ในคนเจ็บดูเหมือนจะทุกราย
                          - ไข้ ชอบเกิดหลังจากเริ่มอาการปวดท้องแล้วระยะหนึ่ง
                          - เบื่อข้าว
                          - ท้องเสีย เจออาการในคนเจ็บบางราย มักจะเกิดภายหลังจากไส้ติ่งแตกทะลุ หรือ ชี้แจง ได้จากไส้ติ่งอักเสบที่อยู่ตำแหน่งใกล้กับลำไส้ใหญ่ส่วน sigmoid หรือ rectum



                          - Rovsing sign
                          - Obturator sign
                          - Psoas sign



ไส้ติ่งอักเสบสามารถรักษาได้ด้วยการผ่าตัดเท่านั้น เพราะเหตุว่าจะช่วยรักษาอาการและก็ช่วยกำจัดความเสี่ยงที่จะเกิดภาวะไส้ติ่งแตก โดยการผ่าตัดที่นิยมใช้ในขณะนี้เป็นการผ่าตัดแบบส่องกล้อง (Laparoscopic Surgery) เพราะเหตุว่าเป็นการผ่าตัดเล็กสามารถกลับไปพักฟื้นที่บ้านได้โดยทันที เหมาะสมกับกรณีไส้ติ่งที่อักเสบยังอยู่ในระยะไม่ร้ายแรงนัก ถ้าเกิดร้ายแรงถึงขนาดไส้ติ่งแตก ก็จะต้องใช้การผ่าตัดแบบเปิด (Open Surgery) ซึ่งเป็นผ่าตัดแบบมาตรฐาน เพราะว่านอกเหนือจากต้องนำไส้ติ่งที่แตกออกแล้ว ยังจะต้องชำระล้างด้านในท้อง แล้วก็ใส่ท่อเพื่อระบายหนองจากฝีที่เกิดขึ้นอีกด้วย โดยหมอจะพิจารณาผ่าตัดรักษาดังต่อไปนี้



กลุ่มอาการที่เสี่ยงที่จะทำให้เป็นโรคไส้ติ่งอักเสบ มีลักษณะปวดท้องที่มีลักษณะไม่เหมือนลักษณะของการปวดโรคกระเพาะ ท้องเดิน หรือปวดเมนส์ ก็ให้สงสัยว่าบางทีอาจเป็นโรคไส้ติ่งอักเสบได้ ควรรีบไปพบหมอ หากมีลักษณะอย่างใดอย่างหนึ่งดังนี้



การติดต่อของโรคไส้ติ่งอักเสบ โรคไส้ติ่งอักเสบเป็นโรคที่เกิดขึ้นจากการอุดตันของรูไส้ติ่ง จากสิ่งแปลกปลอมต่างๆทำให้ไส้ติ่งมีการอักเสบติดโรคและแตกในที่สุด ไส้ติ่งอักเสบเป็นโรคที่เกิดขึ้นเฉพาะกับผู้เจ็บป่วยแต่ละคน และไม่ได้เป็นโรคติดต่อที่แพร่ให้คนใกล้กันอะไร
การกระทำตนเมื่อเป็นโรคไส้ติ่งอักเสบ  เหตุเพราะโรคไส้ติ่งอักเสบ เป็นโรคเร่งด่วน จะต้องไปพบแพทย์ในทันที ที่ห้องเร่งด่วนของโรงพยาบาลเพื่อกระทำการผ่าตัดและไม่ควรรับประทานยาระบายหรือสวนอุจจาระ เมื่อมีอาการท้องผูกร่วมด้วย เพราะอาจทำให้ไส้ติ่งอักเสบนั้นแตกเร็วขึ้น



o    เมื่อมีลักษณะอาการของไส้ติ่งอักเสบ ก่อนไปพบแพทย์คนเจ็บต้องงดอาหารและน้ำกินไว้ด้วยเพื่อจัดเตรียมสำหรับในการผ่าตัดรีบด่วน
o   ในกรณีที่มีลักษณะอาการปวดท้องแต่ผู้ป่วยยังไม่เคยทราบสาเหตุ ห้ามรับประทานยาพารา แต่ควรรีบไปพบแพทย์เพื่อตรวจวิเคราะห์ก่อน เนื่องจากว่ายาแก้ปวดจะไปบังลักษณะของการปวดทำให้หมอแยกโรคได้ลำบาก
o  งดเว้นการใช้ครีมและเครื่องแต่งหน้าทุกประเภท รวมทั้งทำร่างกายให้สะอาด อาบน้ำ สระผม ตัดเล็บ เพื่อหมอพิจารณาอาการไม่ดีเหมือนปกติจากการขาดออกสิเจนได้



การคุ้มครองตนเองจากโรคไส้ติ่งอักเสบ ในตอนนี้ยังไม่ครั้งการศึกษาและทำการค้นพบวิธีคุ้มครองป้องกันอาการไส้ติ่งอักเสบ เนื่องจากไส้ติ่งอักเสบเป็นอาการกระทันหันที่ไม่สามารถที่จะหามูลเหตุที่แน่ชัดได้ แต่มีข้อสังเกตว่า สามัญชนที่นิยมทานอาหารพวกผักผลไม้มาก (เช่น ชาวแอฟริกา) จะมีอัตราการเป็นไส้ติ่งอักเสบน้อยกว่ากรุ๊ปที่ทานผักและทานผลไม้น้อย (ยกตัวอย่างเช่น ฝรั่ง) จึงมีการเสนอแนะให้พากเพียรกินผักและผลไม้ให้มากมายๆทุกๆวัน ซึ่งส่งผลดีต่อการปกป้องโรคท้องผูก ริดสีดวงทวาร โรคอ้วน รวมทั้งยังมั่นใจว่าบางทีอาจคุ้มครองป้องกันไส้ติ่งอักเสบ และก็โรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ได้อีกด้วย
นอกจากนั้นมีการเรียนที่ค้นพบว่า ภาวะท้องผูกมีส่วนสัมพันธ์กับการเกิดไส้ติ่งอักเสบ โดยพบว่าคนเจ็บไส้ติ่งอักเสบจะมีปริมาณครั้งในการอึต่ออาทิตย์น้อยกว่ากรุ๊ปควบคุมอย่างเป็นจริงเป็นจัง และยังพบว่า ผู้ป่วยมะเร็งลำไส้ใหญ่และมะเร็งไส้ตรงชอบเป็นโรคไส้ติ่งอักเสบเอามาก่อน ทั้งยังส่งผลการเรียนรู้หลายงานที่ศึกษาค้นพบว่า การรับประทานอาหารที่มีกากใยต่ำจะมีส่วนในการส่งผลให้เกิดโรคไส้ติ่งอักเสบอีกด้วย
สมุนไพรที่ช่วยป้องงกัน/ทุเลาโรคไส้ติ่งอักเสบ เนื่องจากการดูแลรักษาโรคไส้ติ่งอักเสบจำต้องรักษาด้วยการผ่าตัดเพียงแค่นั้นและก็ในตอนนี้ยังไม่มีการยืนยันว่าสมุนไพรจำพวกไหนที่จะช่วยคุ้มครองปกป้องหรือ ทุเลา/รักษา โรคไส้ติ่งอักเสบได้ รวมถึงยังไม่มีรายงานการวิจัยชิ้นไหนที่รายงานว่าสมุนไพรจำพวกไหนสามารถช่วยคุ้มครองหรือ / รักษาโรคไส้ติ่งอักเสบได้
เอกสารอ้างอิง