รับซ่อมแผงวงจรอิเล็กทรอนิกส์

ลงประกาศฟรี => อื่น ๆ => ข้อความที่เริ่มโดย: billcudror1122 ที่ เมษายน 02, 2018, 09:25:52 AM

หัวข้อ: โรคไส้ติ่งอักเสบ - อาการ, สาเหตุ, การรักษา-เเละ สมุนไพร
เริ่มหัวข้อโดย: billcudror1122 ที่ เมษายน 02, 2018, 09:25:52 AM
(https://www.img.in.th/images/700443a20ab14aa66962d4229755bee5.jpg)
โรคไส้ติ่งอักเสบ (Appendicitis)
โรคไส้ติ่งอักเสบ (http://www.disthai.com/16865730/%E0%B9%82%E0%B8%A3%E0%B8%84%E0%B9%84%E0%B8%AA%E0%B9%89%E0%B8%95%E0%B8%B4%E0%B9%88%E0%B8%87%E0%B8%AD%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B9%80%E0%B8%AA%E0%B8%9A-appendicitis)คืออะไร  ไส้ติ่ง (Vermiform appendix) เป็นส่วนเพิ่มเติมของไส้ที่ยื่นออกมาจากกระพุ้งไส้ใหญ่ (Cecum) ไส้ติ่งมีรูปร่างเสมือนถุงยาวๆขนาดเท่านิ้วก้อย ยื่นออกมาจากลำไส้ใหญ่ อยู่ตรงรอบๆท้องน้อยข้างขวา โดยมีลักษณะเป็นถุงแคบและก็ยาว มีขนาดกว้างเพียงแต่ 5-8 มม. รวมทั้งมีความยาวหรือก้นถุงลึกโดยเฉลี่ย 8-10 เซนติเมตร (ในคนแก่) ข้างในมีรูติดต่อกับลำไส้ใหญ่ส่วนต้น ผนังภายในของไส้ติ่งมีเยื่อต่อมน้ำเหลืองกระจัดกระจายอยู่ ซึ่งเป็นเนื้อเยื่อมีการอักเสบได้ง่าย โดยเนื้อเยื่อนี้จะมีการเพิ่มปริมาณมากช่วงวัยรุ่น ก็เลยพบไส้ติ่งอักเสบกำเนิดได้บ่อยในวัย รุ่น ไส้ติ่งนับว่าเป็นส่วนใดส่วนหนึ่งของลำไส้ใหญ่ที่ฝ่อตัวลงและไม่ได้ทำหน้าที่สำหรับเพื่อการย่อยรวมทั้งซับอาหาร เพราะเหตุว่าเป็นท่อขนาดเล็กปลายตัน เมื่อเกิดการอักเสบจึงทำให้เนื้อผนังไส้ติ่งเน่าตายและก็เป็นรูทะลุในเวลาอันรวดเร็วทันใจได้
ไส้ติ่งอักเสบเป็น อาการบวมและก็ติดโรคของไส้ติ่งนับเป็นอาการที่เกิดขึ้นอย่างกระทันหันและก็อันตราย ซึ่งจะต้องได้รับการผ่าตัดอย่างรีบ ด่วน เพราะเหตุว่าถ้าหากทิ้งเอาไว้นาน ไส้ติ่งที่อักเสบมักแตกกระจายเชื้อโรคสู่ช่องท้อง รวมทั้งบางทีอาจเป็นสา เหตุร้ายแรงจนถึงติดโรคในกระแสโลหิตจนถึงขั้นเสียชีวิตได้
โดยการตายจำนวนมากของโรคไส้ติ่งอักเสบ (http://www.disthai.com/16865730/%E0%B9%82%E0%B8%A3%E0%B8%84%E0%B9%84%E0%B8%AA%E0%B9%89%E0%B8%95%E0%B8%B4%E0%B9%88%E0%B8%87%E0%B8%AD%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B9%80%E0%B8%AA%E0%B8%9A-appendicitis)เกิดขึ้นได้เพราะมีสาเหตุเนื่องมาจากสภาวะเยื่อบุช่องท้องอักเสบและก็สภาวะช็อค โรคไส้ติ่งอักเสบได้รับการชี้แจงเป็นครั้งแรกโดย Reginald Fitz ในปี พุทธศักราช 2429 เดี๋ยวนี้ได้รับการยินยอมรับว่ายอดเยี่ยมในสิ่งที่ทำให้เกิดลักษณะของการปวดท้องรุนแรงกระทันหันที่พบได้บ่อยที่สุดทั้งโลกและก็ โรคไส้ติ่งอักเสบยังพบเป็นต้นเหตุอันดับหนึ่งของโรคปวดท้อง ที่จำเป็นต้องรักษาด้วยแนวทางผ่าตัดเร่งด่วน บ่อยครั้งที่ค้นพบว่าคนป่วยปล่อยให้มีลักษณะอาการเจ็บท้องนานนับเป็นเวลาหลายวันและหลังจากนั้นก็ค่อยมาโรงพยาบาล  ซึ่งชอบพบว่าเป็นถึงกับขนาดไส้ติ่งแตกแล้ว ไส้ติ่งอักเสบเป็นโรคที่พบได้บ่อย เกิดขึ้นได้กับทุกเพศทุกวัย ตั้งแต่เด็กอายุ 2 ขวบไปจนกระทั่งคนชรา หรือแม้กระทั่งหญิงมีท้อง แต่ว่าจะพบได้มากในช่วงอายุ 10-30 ปี (เจอได้น้อยในคนชรา เหตุเพราะไส้ติ่งตีบยุบมีเนื้อเยื่อหลงเหลือน้อย รวมทั้งในเด็กอายุต่ำลงมากยิ่งกว่า 3 ปี เนื่องมาจากโคนไส้ติ่งยังค่อนข้างกว้าง) ในสตรีและก็ผู้ชายได้โอกาสเป็นโรคนี้ได้เท่าๆกัน รวมทั้งมีการคาดประมาณว่าในชั่วชีวิตของมนุษย์จะมีโอกาสเป็นโรคนี้ราว 7% ในปีๆหนึ่งจะมีผู้เจ็บป่วยเป็นโรคนี้ราว 1 ใน 1,000 คน
สิ่งที่ทำให้เกิดโรคไส้ติ่งอักเสบ ไส้ติ่งอักเสบ มีต้นเหตุจากมีสภาวะอุดกันของรูไส้ติ่ง ส่วนการอุดกันนั้นส่วนหนึ่งส่วนใดเป็นการเกิดขึ้นเองโดยไม่รู้มูลเหตุกระจ่าง แม้กระนั้นส่วนใดส่วนหนึ่งเกิดจากมีเศษอุจจาระแข็งๆเรียกว่า "นิ่วอุจจาระ" (fecalith) ชิ้นเล็กๆตกลงไปอุดกันอยู่ภายในรูของไส้ติ่ง แล้วทำให้เชื้อแบคทีเรียที่อาศัยอยู่ในรูไส้ติ่งจำนวนน้อยเกิดการเจริญขยายพันธุ์แล้วก็รุกล้ำเข้าไปในผนังไส้ติ่ง จนถึงเกิดการอักเสบตามมา แม้ปล่อยไว้เพียงแค่ไม่กี่วัน ฝาผนังไส้ติ่งก็เกิดการเน่าตายแล้วก็แตกทะลุได้ รวมทั้งต้นสายปลายเหตุที่พบได้รองลงมาคือ มีสาเหตุมาจากเนื้อเยื่อต่อมน้ำเหลือง (Lymphoid tissue) ที่ฝาผนังไส้ติ่งที่ครึ้มตัวขึ้นตามการอักเสบต่างๆที่เกิดขึ้นภายในร่างกาย ยิ่งกว่านั้นอาจเป็นเพราะเนื่องจากสิ่งแปลกปลอม (ยกตัวอย่างเช่น เมล็ดผลไม้), หนอนพยาธิ (ที่สำคัญคือ พยาธิไส้เดือน พยาธิด้าย พยาธิตืดหมู) หรือเนื้องอก หรือบางคราวก็อาจเกิดจากการต่อว่าดเชื้อที่ระบบทางเท้าหายใจส่วนบน ที่ทำให้ต่อมน้ำเหลืองทั่วร่างกาย และต่อมน้ำเหลืองในไส้ติ่งเกิดการปฏิกิริยาสนองตอบด้วยการขยายตัวขึ้นกระทั่งไปห้ามไส้ติ่ง แล้วก็ทำให้ไส้ติ่งที่อาจมีเชื้อโรคอาศัยอยู่กำเนิดอาการอักเสบสุดท้าย ในผู้เจ็บป่วยบางรายอาจเป็นไส้ติ่งอักเสบที่เกิดขึ้นจากเชื้อไวรัสไซโตเมกะโล (Cytomegalovirus)  ซึ่งชอบเจอได้ในคนเจ็บเอดส์ รวมทั้งบางรายอาจเป็นไส้ติ่งอักเสบโดยที่แพทย์ไม่เคยรู้ปัจจัยเลยก็ได้
อาการโรคไส้ติ่งอักเสบ อาการสำคัญของโรคไส้ติ่งอักเสบนั้นเป็น คนไข้จะมีอาการเจ็บท้องที่มีลักษณะสม่ำเสมอรวมทั้งปวดแรงขึ้นนานเกิน 6 ชั่วโมงขึ้นไป หากไม่ได้รับการดูแลและรักษาก็ชอบปวดอยู่นานหลายวัน จนคนป่วยทนปวดไม่ไหวจะต้องพาส่งโรงหมอ ซึ่งลักษณะของไส้ติ่งอักเสบนั้นอาจแบ่งได้สองชนิด เป็นประเภทขวานผ่าซากและก็จำพวกไม่ไม่อ้อมค้อมดังนี้ จำพวกไม่อ้อมค้อมเดิมบางทีอาจปวดแน่นตรงลิ้นปี่เหมือนโรคกระเพาะ บางคนบางทีอาจปวดบิดเป็นพักๆรอบๆสะดือ คล้ายอาการปวดแบบท้องร่วง อาจเข้าส้วมหลายครั้ง แม้กระนั้นถ่ายไม่ออก (แต่บางคนอาจมีอาการถ่ายเป็นน้ำหรือ ถ่ายเหลวร่วมด้วย)ถัดมาจะมีลักษณะอาการอาเจียน อ้วก ไม่อยากกินอาหารร่วมด้วย อาการปวดท้องมักจะไม่ทุเลา แม้ว่าจะกินยาพาราใดๆก็ตาม ถัดมาอีก 3-4 ชั่วโมง ลักษณะของการปวดจะย้ายมาที่ท้องน้อยข้างขวา มีลักษณะปวดเสียดตลอดเวลา รวมทั้งจะเจ็บมากเพิ่มขึ้นเมื่อมีการขยับเขยื้อนตัว หรือเวลาเดินหรือไอจาม ผู้ป่วยจะนอนนิ่งๆหากเป็นมากคนเจ็บจะนอนงอขา ตะแคงไปข้างหนึ่ง หรือเดินตัวงอ เพื่อรู้สึกสบายขึ้น  เมื่อถึงขั้นที่มีอาการอักเสบของไส้ติ่งชัดแจ้ง มีแนวทางตรวจอย่างง่ายๆคือ ให้คนป่วยนอนหงายแล้วใช้มือกดลงลึกๆหรือใช้หมัดตีเบาๆตรงบริเวณไส้ติ่ง (ท้องน้อยข้างขวา)ผู้ป่วยจะรู้สึกเจ็บมาก (เรียกว่า อาการกดเจ็บ) คนป่วยอาจมีไข้ต่ำๆ(อุณหภูมิ 37.7-38.3 องศาเซลเซียส) ส่วนประเภทไม่ไม่อ้อมค้อมนั้นอาจจะเริ่มต้นจากมีอาการปวดเริ่มที่หน้าท้องด้านล่างขวาตั้งแต่ต้น ท้องเสีย และมีการดำเนินโรคที่นานค่อยๆเป็นค่อยๆไปกว่าประเภทไม่อ้อมค้อม แม้ไส้ติ่งที่อักเสบสัมผัสกับกระเพาะปัสสาวะอาจทำให้มีอาการฉี่บ่อยมาก ถ้าไส้ติ่งที่อักเสบอยู่ด้านหลังลำไส้เล็กช่วงปลายอาจมีอาการอ้วกร้ายแรงได้ บางรายบางทีอาจรู้สึกปวดเบ่ง
(https://www.img.in.th/images/4b66a91d90c7f7d37c24ee8660945318.jpg)
ส่วนผู้ป่วยในกลุ่มที่เป็นเด็ก หรือสตรีท้อง อาจมีอาการบางอย่างที่ต่างจากคนโดยปกติทั่วๆไป ดังนี้



ผู้ป่วยโรคไส้ติ่งอักเสบถ้าหากไม่ได้รับการดูแลและรักษาโดยการผ่าตัดภายใน 24-36 ชั่วโมงข้างหลังมีการอักเสบ ไส้ติ่งจะขาดเลือดแปลงเป็นเนื้อเน่าและตาย ในที่สุดผนังของไส้ติ่งที่เปื่อยจะแตกทะลุ หนองและสิ่งสกปรกภายในลำไส้จะไหลออกมาในท้อง ทำให้แปลงเป็นเยื่อบุช่องท้องอักเสบ (Peritonitis) และก็ถ้าเชื้อแบคทีเรียแผ่ขยายไปสู่กระแสเลือดก็จะมีการติดเชื้อในกระแสโลหิต ก่อให้เกิดอันตรายจนกระทั่งขั้นเสียชีวิตได้
วิธีการรักษาโรคไส้ติ่งอักเสบ เป็นโรคที่มีปัญหาสำหรับในการวินิจฉัยให้ที่ถูกต้องค่อนข้างมากมาย คนเจ็บบางรายได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคนี้ แต่เมื่อผ่าตัดเข้าไปก็พบว่าไส้ติ่งไม่มีการอักเสบ คนเจ็บบางรายแม้ว่าจะไปพบหมอแต่ว่าก็ได้รับการวิเคราะห์ว่าเป็นโรคอื่น กระทั่งไส้ติ่งแตกแล้วจึงได้รับการรักษาวิเคราะห์ที่ถูก เด็กที่อายุน้อยกว่า 2 ขวบดูเหมือนจะทุกรายมักจะวินิจฉัยโรคนี้ได้หลังจากการแตกของไส้ติ่งแล้ว ในเด็กตัวเล็กๆและก็คนป่วยสูงอายุพบว่าอาจกำเนิดปัญหาร้ายแรง หากได้รับการวินิจฉัยและรักษาโรคช้าเหตุเพราะมีภูมิคุ้มกันต่ำ
                การวินิจฉัยโรคไส้ติ่งอักเสบ การวิเคราะห์โรคในผู้เจ็บป่วยจำนวนมากอาศัยลักษณะทางคลินิก (clinical menifestation) เป็นอาการและก็การตรวจพบเป็นหลัก ส่วนการตรวจทางห้องปฎิบัติการและการค้นทางรังสีวิทยา (radiologic investigation) หรือการตรวจเพิ่มเติมอื่นๆมีความสำคัญน้อย มีสาระเฉพาะในคนป่วยบางรายที่ลักษณะทางคลินิกไม่แน่ชัดแค่นั้นโดยมีวิธีการวิเคราะห์ดังนี้



                          - คลื่นไส้ อาเจียน อาการนี้พบได้ในผู้ป่วยดูเหมือนจะทุกราย
                          - ไข้ ชอบกำเนิดหลังจากเริ่มลักษณะของการปวดท้องแล้วระยะหนึ่ง
                          - ไม่อยากอาหาร
                          - ท้องร่วง เจออาการในคนป่วยบางราย มักจะเกิดหลังจากไส้ติ่งแตกทะลุ หรือ ชี้แจง ได้จากไส้ติ่งอักเสบที่อยู่ตำแหน่งใกล้กับลำไส้ใหญ่ส่วน sigmoid หรือ rectum



                          - Rovsing sign
                          - Obturator sign
                          - Psoas sign



ไส้ติ่งอักเสบสามารถรักษาได้ด้วยการผ่าตัดเพียงแค่นั้น เพราะว่าจะช่วยรักษาอาการแล้วก็ช่วยกำจัดความเสี่ยงที่จะเกิดภาวะไส้ติ่งแตก โดยการผ่าตัดที่นิยมใช้ในตอนนี้เป็นการผ่าตัดแบบส่องกล้อง (Laparoscopic Surgery) เนื่องจากเป็นการผ่าตัดเล็กสามารถกลับไปพักฟื้นที่บ้านได้ในทันที เหมาะสมกับกรณีไส้ติ่งที่อักเสบยังอยู่ในระยะไม่รุนแรงนัก ถ้าเกิดร้ายแรงถึงขั้นไส้ติ่งแตก ก็ต้องใช้การผ่าตัดแบบเปิด (Open Surgery) ซึ่งเป็นผ่าตัดแบบมาตรฐาน เพราะว่านอกเหนือจากต้องนำไส้ติ่งที่แตกออกแล้ว ยังจำเป็นต้องทำความสะอาดภายในท้อง แล้วก็ใส่ท่อเพื่อระบายหนองจากฝีที่เกิดขึ้นอีกด้วย โดยแพทย์จะพินิจผ่าตัดรักษาดังนี้



กรุ๊ปอาการที่เสี่ยงต่อโรคไส้ติ่งอักเสบ มีอาการปวดท้องที่มีลักษณะไม่เหมือนลักษณะของการปวดโรคกระเพาะ ท้องเสีย หรือปวดเมนส์ ก็ให้สงสัยว่าอาจเป็นโรคไส้ติ่งอักเสบได้ ควรรีบไปพบหมอ ถ้าเกิดมีลักษณะอย่างใดอย่างหนึ่งดังต่อไปนี้



การติดต่อของโรคไส้ติ่งอักเสบ โรคไส้ติ่งอักเสบเป็นโรคที่เกิดขึ้นจากการอุดตันของรูไส้ติ่ง จากสิ่งเจือปนต่างๆทำให้ไส้ติ่งมีการอักเสบติดโรคและก็แตกสุดท้าย ไส้ติ่งอักเสบเป็นโรคที่เกิดขึ้นเฉพาะกับคนเจ็บแต่ละคน และไม่ได้เป็นโรคติดต่อที่แพร่ให้คนใกล้กันอะไร
การปฏิบัติตนเมื่อเป็นโรคไส้ติ่งอักเสบ  เพราะโรคไส้ติ่งอักเสบ เป็นโรคเร่งด่วน จะต้องไปพบหมอทันที ที่ห้องฉุกเฉินของโรงหมอเพื่อกระทำการผ่าตัดและไม่ควรจะรับประทานยาระบายหรือสวนอุจจาระ เมื่อมีลักษณะท้องผูกร่วมด้วย เนื่องจากอาจจะส่งผลให้ไส้ติ่งอักเสบนั้นแตกเร็วขึ้น



o    เมื่อมีลักษณะอาการของไส้ติ่งอักเสบ ก่อนไปพบหมอคนไข้จะต้องงดอาหารและก็น้ำไว้ด้วยเพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับในการผ่าตัดรีบด่วน
o   ในเรื่องที่มีลักษณะอาการเจ็บท้องแต่ว่าผู้ป่วยยังไม่ทราบสาเหตุ ห้ามรับประทานยาพารา แต่ว่าควรจะรีบไปพบแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยก่อน เพราะว่ายาแก้ปวดจะไปบดบังลักษณะของการปวดทำให้หมอแยกโรคได้ทุกข์ยากลำบาก
o  งดการใช้ครีมและก็เครื่องสำอางทุกประเภท และก็ทำร่างกายให้สะอาด อาบน้ำ สระผม ตัดเล็บ เพื่อหมอพิจารณาอาการเปลี่ยนไปจากปกติจากการขาดออกสิเจนได้



การปกป้องคุ้มครองตัวเองจากโรคไส้ติ่งอักเสบ ในขณะนี้ยังไม่คราวการศึกษาค้นพบแนวทางปกป้องอาการไส้ติ่งอักเสบ เพราะไส้ติ่งอักเสบเป็นอาการกะทันหันที่ไม่สามารถที่จะหามูลเหตุที่แจ่มชัดได้ แม้กระนั้นมีข้อสังเกตว่า พลเมืองที่นิยมรับประทานอาหารพวกผักผลไม้มากมาย (อาทิเช่น ชาวแอฟริกา) จะมีอัตราการเป็นไส้ติ่งอักเสบน้อยกว่ากรุ๊ปที่กินผักและก็กินผลไม้น้อย (เช่น ชาวต่างประเทศ) จึงมีการชี้แนะให้อุตสาหะกินผักและผลไม้ให้มากๆทุกวี่วัน ซึ่งมีผลดีต่อการปกป้องคุ้มครองโรคท้องผูก ริดสีดวงทวาร โรคอ้วน และก็ยังมั่นใจว่าอาจป้องกันไส้ติ่งอักเสบ และโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ได้อีกด้วย
ยิ่งกว่านั้นมีการศึกษาเล่าเรียนที่พบว่า ภาวะท้องผูกมีส่วนสมาคมกับการเกิดไส้ติ่งอักเสบ โดยพบว่าผู้เจ็บป่วยไส้ติ่งอักเสบจะมีปริมาณครั้งสำหรับเพื่อการถ่ายอุจจาระต่ออาทิตย์น้อยกว่ากรุ๊ปควบคุมอย่างมีนัยสำคัญ และยังพบว่า คนไข้โรคมะเร็งลำไส้ใหญ่รวมทั้งโรคมะเร็งลำไส้ตรงชอบเป็นโรคไส้ติ่งอักเสบนำมาก่อน ทั้งยังยังมีผลการศึกษาหลายงานที่พบว่า การรับประทานอาหารที่มีกากใยต่ำจะมีส่วนสำหรับในการนำไปสู่โรคไส้ติ่งอักเสบอีกด้วย
สมุนไพรที่ช่วยป้องงกัน/ทุเลาโรคไส้ติ่งอักเสบ เนื่องแต่การรักษาโรคไส้ติ่งอักเสบจำเป็นต้องรักษาโดยใช้การผ่าตัดเท่านั้นแล้วก็ในขณะนี้ยังไม่มีการยืนยันว่าสมุนไพรประเภทไหนที่จะช่วยคุ้มครองปกป้องหรือ ทุเลา/รักษา โรคไส้ติ่งอักเสบได้ รวมทั้งยังไม่มีรายงานการวิจัยชิ้นไหนที่รายงานว่าสมุนไพรจำพวกไหนสามารถช่วยคุ้มครองหรือ / รักษาโรคไส้ติ่งอักเสบได้
เอกสารอ้างอิง