รับซ่อมแผงวงจรอิเล็กทรอนิกส์

ลงประกาศฟรี => อื่น ๆ => ข้อความที่เริ่มโดย: bilbill2255 ที่ มีนาคม 27, 2018, 10:05:36 AM

หัวข้อ: โรคของกินเป็นพิษ - อาการ, สาเหตุ, การรักษา-เเละ สมุนไพร
เริ่มหัวข้อโดย: bilbill2255 ที่ มีนาคม 27, 2018, 10:05:36 AM
(https://www.img.in.th/images/50ee3f6aa622caed0bdcd64183db0cf1.jpg)
โรคของกินเป็นพิษ (Food poisoning)

Clostridium botulinum เป็นแบคทีเรีย anaerobic ที่เป็น gram positive ที่พบได้ในดินและก็น้ำในสิ่งแวดล้อมทั่วๆไป ชนิดซึ่งสามารถก่อโรคในคนแบ่งได้เป็น



เชื้อนี้เจริญวัยได้ดิบได้ดีในสถานการณ์แวดล้อมที่มีออกสิเจนน้อย จึงพบบ่อยในอาหารใส่ในภาชนะที่ปิดสนิท โดยเฉพาะอย่างยิ่งสินค้าใส่กระป๋องที่ผ่านขั้นตอนการผลิตผิดความถูกอนามัย เป็นต้นว่า หน่อไม้ปีบ หน่อไม้ดอง ผักกาดดอง และสินค้าเนื้อสัตว์แปรรูป พิษที่ผลิตมาจากเชื้อชนิดนี้กระตุ้นแล้วส่งผลให้มีการเกิดอาการอาเจียน ถ่ายท้อง ตาพร่ามัว แลเห็นภาพซ้อน กล้ามอ่อนเพลีย และก็บางเวลารุนแรงจนกระทั่งอาจเกิดภาวะหายใจล้มเหลวแล้วก็เสียชีวิตได้
Vibrio parahaemolyticus ซึ่งเป็นแบคทีเรียที่ชอบเกลือเข้มข้นสูงสำหรับการเติบโต (halophilic vibrio) มีแอนติเจนโอ ("O" antigen) แตกต่างกัน 12 ประเภท แล้วก็มีแอนติเจนเค ("K" antigen) ที่ตรวจได้แล้วเดี๋ยวนี้มี 60 ประเภท พบมากในอาหารทะเลที่ดิบหรือปรุงไม่สุกเพียงพอ
Bacillus cereus เป็นเชื้อที่ไม่ต้องการที่จะอยากออกสิเจน สร้างสปอร์ได้ มีพิษ 2 ชนิดคือ ชนิดที่ทนต่อความร้อนได้ กระตุ้นแล้วส่งผลให้มีการเกิดอ้วก และก็จำพวกที่ทนความร้อนมิได้ทำให้เกิดอาการ อุจจาระหล่นโดยมากพบเกี่ยวอาหาร (อย่างเช่น ข้าวผัดในร้านค้าแบบบริการตนเอง) ผักและก็ของกินและเนื้อที่เก็บรักษาผิดต้อง ณ.อุณหภูมิปกติภายหลังจากปรุงแล้ว
S.aureus หลายชนิดที่สร้างพิษ (enterotoxin) ซึ่งคงทนต่ออุณหภูมิที่จุดเดือด เชื้อมักจะแบ่งตัวเพิ่มจำนวนในอาหารและก็สร้าง toxin ขึ้น ของกินที่มี enterotoxin จำนวนมากเป็นของกินที่ปรุงและสัมผัสกับมือของผู้ประกอบอาหาร และไม่ได้ทำการอุ่นอาหารด้วยอุณหภูมิที่สมควรก่อนที่จะกินอาหาร หรือแช่ตู้แช่เย็น เป็นต้นว่า ขนมจีน ขนมเอ แคลร์ เนื้อ เมื่ออาหารพวกนี้ถูกทิ้งในอุณหภูมิห้องหลายชั่วโมงต่อเนื่องกันก่อนนำไปบริโภค ทำให้เชื้อสามารถแบ่งตัวและสร้างพิษที่ทนต่อความร้อนออกมา
ซาลโมเนลลา (Salmonella) พบได้บ่อยในเนื้อสัตว์ดิบ ไข่ดิบ นม และผลิตภัณฑ์ที่ทำมาจากนม นำมาซึ่งการก่อให้เกิดอาการท้องร่วง ถ่ายมีมูก อ้วก คลื่นไส้ จับไข้ ด้านใน 4-7 วัน
เอสเชอริเชีย วัวไล (Escherichia coli) หรือเรียกสั้นๆว่า อีโคไล (E. coli) อี.โคไลเป็นแบคทีเรียรูปแท่งย้อมติดสีกรัมลบ มันมีสารพิษทำให้มีการเกิดอาการท้องร่วง  อี.โคไลมีสารพิษ 2 จำพวก เป็นสารที่มีโมเลกุลใหญ่แล้วก็ถูกทำลายให้หมดไปด้วยวิธีการทำให้อาหารสุก แต่ว่าอีกชนิดหนึ่งที่มันผลิตออกมาพร้อมๆกันนั้น มีโมเลกุลที่เล็กกว่า แล้วก็เป็นสารทนไฟที่ไม่สามารถทำลายได้ด้วยความร้อน พิษทั้งสองชนิดส่งผลทำให้ท้องเดินด้วยเหมือนกัน ดังนั้นหากของกินปนเปื้อนพิษนี้แล้วไม่ว่าจะทำให้สุกก่อนหรือไม่ ก็จะไม่มีวันทำลายสารพิษของมันให้หมดไปได้ มีทางเดียวที่จะป้องกันได้ก็คือทิ้งของกินนั้นไปเสีย
ชิเกลล่า (Shigella) พบการแปดเปื้อนอีกทั้งในสินค้าอาหารสดและก็น้ำที่ไม่สะอาด รวมถึงอาหารสดที่สัมผัสกับบุคคลที่มีเชื้อโดยตรง เนื่องจากเชื้อประเภทนี้สามารถกระจัดกระจายจากบุคคลหนึ่งไปสู่บุคคลหนึ่งได้ ก่อให้เกิดอาการอาเจียน คลื่นไส้ ปวดมวนท้อง วันหลังการทานอาหารภายใน 7 วัน
เชื้อไวรัสก่อโรคผ่านทางเดินอาหาร (Enteric Viruses) ประกอบด้วยไวรัสหลายประเภท ได้แก่ เชื้อไวรัสโนโร (Norovirus) ที่มักจะปนเปื้อนทั้งยังในสินค้าอาหารสด สัตว์น้ำชนิดมีเปลือก แล้วก็น้ำกินที่ไม่สะอาด แสดงอาการข้างใน 1-2 วัน หรือเชื้อไวรัสตับอักเสบ เอ (Hepatitis A) ซึ่งสามารถติดต่อด้วยการได้รับเชื้อจากอาหารสดที่สัมผัสกับบุคคลที่มีเชื้อโดยตรง ข้างใน 2-3 สัปดาห์

(https://www.img.in.th/images/89a0e8c4ba7fa839cee38703558e1214.jpg)
ซึ่งเมื่อเชื้อโรค หรือ สารพิษไปสู่ร่างกาย จะก่ออาการ เร็ว หรือ ช้า  ขึ้นกับประเภท และปริมาณของเชื้อ หรือ ของสารพิษ ซึ่งเจอกำเนิดอาการได้ตั้งแต่ 2-6 ชั่วโมงข้างหลังทานอาหาร/ดื่มน้ำ ไปจนถึงเป็นวัน หรือ อาทิตย์ หรือ เป็นเดือน (ดังเช่น ในเชื้อไวรัสตับอักเสบ เอ) แม้กระนั้นโดยปกติ มักพบเกิดอาการข้างใน 2-6 ชั่วโมง หรือ 2-3วัน  อาการโดยทั่วไปที่พบมาก จากโรคของกินเป็นพิษ อาทิเช่น ท้องร่วง บางทีอาจเป็นน้ำ มูก หรือ มูกเลือด ปวดท้อง อาจมาก หรือ น้อย ขึ้นอยู่กับความร้ายแรงของโรค มักเป็นการปวดบิด เพราะเหตุว่าการบีบตัวของไส้ อ้วก อ้วก ในบางรายอาจมีอาเจียนเป็นเลือดได้  เป็นไข้สูง บางทีอาจหนาวสั่น แต่บางเวลาเป็นไข้ต่ำได้  ปวดหัว ปวดเมื่อยร่างกาย บางทีอาจปวดข้อ ขึ้นอยู่กับจำพวกของเชื้อหรือ สารพิษดังที่กล่าวมาแล้วข้างต้นแล้ว  อาจมีผื่นขึ้นตามตัว  อาจมีกล้ามเนื้ออ่อนกำลัง ดังที่กล่าวผ่านมาแล้วแล้วด้วยเหมือนกัน  มีอาการของการสูญเสียน้ำในร่างกาย  เช่น อ่อนเพลีย  เมื่อยล้าง่าย  ปากแห้ง ตาโบ๋  ฉี่บ่อยครั้ง



ดังนี้การตรวจในห้องปฏิบัติการเพื่อค้นหาที่มาของของกินเป็นพิษยังทำได้ด้วยแนวทางการตรวจจำนวนแอนติบอดีในเลือด (Immunological tests) หรือวิธีอื่นๆได้อีก ซึ่งขึ้นอยู่กับอาการของผู้ป่วยรวมทั้งดุลยพินิจของหมอ เพื่อดำเนินการรักษาอย่างแม่นยำในลำดับต่อไป   
กรรมวิธีรักษาโรคอาหารเป็นพิษ ที่สำคัญที่สุด คือ รักษาประคับ ประคองตามอาการ อย่างเช่น คุ้มครองสภาวะขาดน้ำรวมทั้งขาดสมดุลของเกลือแร่ซึ่งการดูแลและรักษาโดยให้น้ำเกลือทางเส้นเลือดเมื่อท้องเดินมาก ยาแก้ปวด ยาบรรเทาอาการอ้วก อาเจียน และก็ยาลดไข้ นอกจากนี้ คือ การดูแลและรักษาตามมูลเหตุ อาทิเช่นพิเคราะห์ให้ยายาปฏิชีวนะ เมื่อมีเหตุมาจากติดเชื้อโรคแบคทีเรีย หรือ ให้ยาต่อต้านสารพิษหากเป็นชนิดมียาต่อต้าน แต่ว่าคนไข้จำนวนมากมักมีอาการที่ได้ด้วยการดูแลตนเองที่บ้าน สิ่งจำเป็นที่สุด คือ จำต้องพากเพียรอย่าให้ร่างกายขาดน้ำ ควรดื่มน้ำเปล่ามากมายๆหรือจิบน้ำเป็นประจำเพื่อชดเชยการสูญเสียน้ำจากอาการท้องร่วงรวมทั้งคลื่นไส้มากจนเกินไป



ในขณะปวดท้อง หรือ อาเจียนอ้วก ไม่ควรรับประทานอาหาร หรือ ดื่มน้ำเพราะว่าอาการจะร้ายแรงขึ้น   กินน้ำสะอาดให้ได้วันละมากๆอย่างน้อย 8-10 แก้ว เมื่อแพทย์ไม่สั่งให้ จำกัดน้ำ  พักผ่อนให้มากมายๆรักษาสุขลักษณะรากฐาน เพื่อคุ้มครองปกป้องการแพร่ขยายเชื้อสู่ผู้อื่น ที่สำคัญหมายถึงการล้างมือให้สะอาดเสมอ โดยเฉพาะอย่างยิ่งข้างหลังการขับ ถ่าย และก็ก่อนที่จะรับประทานอาหาร