รับซ่อมแผงวงจรอิเล็กทรอนิกส์

ลงประกาศฟรี => อื่น ๆ => ข้อความที่เริ่มโดย: BeerCH0212 ที่ มีนาคม 19, 2018, 09:39:25 AM

หัวข้อ: โรคหัวใจขาดเลือด - อาการ, สาเหตุ, การรักษา-เเละ สมุนไพร
เริ่มหัวข้อโดย: BeerCH0212 ที่ มีนาคม 19, 2018, 09:39:25 AM
(https://www.picz.in.th/images/2018/03/16/SgpPeN.jpg)
โรคหัวใจขาดเลือด (Ischemic heart disease.IHD)

โรคหัวใจขาดเลือด (http://www.disthai.com/16816959/%E0%B9%82%E0%B8%A3%E0%B8%84%E0%B8%AB%E0%B8%B1%E0%B8%A7%E0%B9%83%E0%B8%88%E0%B8%82%E0%B8%B2%E0%B8%94%E0%B9%80%E0%B8%A5%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%94-) ( Ischemic Heart Disease) เป็นโรคที่อาจจะบอกได้ว่าพบบ่อยในประเทศไทยและก็มีลัษณะทิศทางสูงมากขึ้นเรื่อยและเป็นโรคที่เป็นต้นเหตุของการตายชั้นต้นในประเทศที่พัฒนาแล้ว
หัวใจปฏิบัติภารกิจเหมือนเครื่องสูบน้ำ คอยสูบฉีดเลือดไปเลี้ยงอวัยวะแล้วก็ระบบต่างๆทั่วร่างกาย หัวใจมีกล้ามเนื้อและเยื่อที่อยากได้เลือดไปเลี้ยงเช่นเดียวกับอวัยวะส่วนอื่นๆหลอดเลือดที่นำเลือดไปเลี้ยงหัวใจ ภาษาแพทย์เรียกว่า เส้นโลหิตหัวใจ หรือ เส้นเลือดโคโรนารี (coronary artery) ซึ่งมีอยู่หลายกิ่งก้านสาขา แต่ละกิ้งก้านจะแยกกันไปเลี้ยงกล้ามเนื้อหัวใจส่วนต่างๆ
แต่ว่าถ้าหากเส้นเลือดหัวใจแขนงใดกิ้งก้านหนึ่งมีการแคบ ก็จะก็ทำให้กล้ามเนื้อหัวใจบางส่วนขาดเลือดไปเลี้ยง กำเนิดอาการเจ็บจุกอกและอ่อนแรง พวกเราเรียกว่า โรคหัวใจขาดเลือด (Ischemic heart disease เรียกชื่อย่อว่า IHD) บ้างก็เรียกว่า โรคเส้นเลือดหัวใจตีบ หรืออุดกั้น บ้างก็เรียกว่า โรคหัวใจวัวโรสตรี (coronary heart disease เรียกชื่อย่อว่า CHD)
ด้วยเหตุผลดังกล่าวโรคหัวใจขาดเลือด(Ischemicheart disease, IHD) หรือโรคเส้นเลือดแดงวัวโรผู้หญิง(Coronary artery disease, CAD) ก็เลยหมายคือ โรคที่มีต้นเหตุมากจากเส้นเลือดแดงที่เลี้ยงกล้ามเนื้อหัวใจตีบหรือตัน ซึ่งส่วนใหญ่เกิดขึ้นจากไขมันแล้วก็เยื่อสะสมอยู่ในฝาผนังของเส้นเลือด มีผลให้เยื่อบุผนังเส้นเลือดชั้นในตำแหน่งนั้นหนาตัวขึ้น ผู้ป่วยจะมีลักษณะแล้วก็อาการแสดงเมื่อเส้นโลหิตแดงนี้ตีบร้อยละ50 หรือมากยิ่งกว่าอาการสำคัญที่พบได้มากตัวอย่างเช่น อาการเจ็บคาดคั้นอก ใจสั่น เหงื่อออก อิดโรยขณะออกแรง เป็นลมเป็นแล้งหมดสติหรือรุนแรงถึงขึ้นเสียชีวิตกระทันหันได้
โรคหัวใจขาดเลือด เป็นโรคของผู้ใหญ่ตั้งแต่วัยหนุ่มวัยสาวไปจนกระทั่งในคนวัยชรา โดยพบได้สูงตั้งแต่อายุ 40 ปีขึ้นไปในตอนวัยเจริญพันธุ์ เจอโรคหลอดเลือดหัวใจในเพศชายได้สูงยิ่งกว่าในเพศหญิง แม้กระนั้นภายหลังวัยหมดประจำเดือนถาวรแล้ว ทั้งยังเพศหญิงและผู้ชายได้โอกาสเกิดโรคเส้นเลือดหัวใจได้ใกล้เคียงกัน



ถ้าปล่อยไว้นานๆขี้ตะกรันท่อเส้นเลือดที่เกาะอยู่ด้านในฝาผนังหลอดเลือดหัวใจจะมีการฉีกให้ขาดหรือแตกออก เกล็ดเลือดก็จะจับกุมกันจนถึงเปลี่ยนเป็นลิ่มเลือดและอุดกั้นช่องทางเดินของเลือด ทำให้กล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดอยู่เป็นเวลานานจนเซลล์กล้ามเนื้อหัวใจตาย คนไข้ก็เลยกำเนิดลักษณะการเจ็บแน่นหน้าอกอย่างหนัก ซึ่งเป็นภาวะฉุกเฉินและเกิดอันตรายถึงชีวิตอย่างฉับพลันได้ เรียกว่า “สภาวะกล้ามเนื้อหัวใจตายทันควัน” (Acute myocardial information)



อย่างไรก็ตามผู้ป่วยบางรายบางทีอาจไม่ได้มีลักษณะของ angina pectoris ได้แต่ว่าก็ยังนับว่าเป็นอาการที่เกิดขึ้นมาจากการขาดเลือด ( ischemic equivalents ) เช่น เหน็ดเหนื่อยหรือปวดแขนเวลาออกแรง
นอกนั้นยังมีลักษณะอื่นๆอีกเป็นต้นว่าลักษณะโรคหัวใจล้มเหลว (หัวใจวาย) เช่น อ่อนล้าง่าย หัวใจเต้นเร็ว บวมตามหน้าแขน/ขา  ความดันโลหิตสูง  ไขมันในเลือดสูง  บางรายอาจมีอาการใจสั่นหวิว ใจสั่น ชีพจรเต้นเร็วหรือช้ากว่าปกติ บางรายมีลักษณะอาการเหงื่อซึม เป็นลม ตัวเย็น คลื่นไส้ คลื่นไส้ ในผู้สูงวัยนั้น บางทีอาจจะไม่พูดถึงลักษณะของการเจ็บหน้าอกเลย แต่มีลักษณะอาการอ่อนแรง อ่อนแรงง่าย เหนื่อย และหายใจไม่สะดวกร่วมกับอาการแน่นๆในหน้าอกแค่นั้น หรือรู้สึกอ่อนแรงหมดแรง จนกระทั่งสลบ อาการอีกอย่างหนึ่งเป็น การตายอย่างทันทีทันใด ซึ่งชอบกำเนิดใน 2-3 ชั่วโมง ภายหลังจากเริ่มมีลักษณะ



เพศ เป็นที่รู้กันมานานแล้วว่าผู้ชายมีโอกาสเป็นโรคนี้มากยิ่งกว่าผู้หญิงซึ่งอยู่ในระยะยังไม่หมดประจำเดือน แม้กระนั้นภายหลังจากที่หมดเมนส์แล้ว จังหวะเป็นจะเสมอกันในทั้งคู่เพศ
อายุุ แผ่นไขมันจะเกิดขึ้นมากขี้นตามอายุ ฉะนั้นเกิดการของการเกิดโรคนี้ก็เลยเพิ่มมากขึ้นตามอายุ การเจอโรคนี้ในผู้ที่อายุน้อยกว่า 35 ปีมีได้บ้างแต่ว่าใม่หลายครั้ง
ไขมันในเลือดสูง พบว่าผลรวมของโคเลสเตอรอลทั้งสิ้น มีความสัมพันธ์โดยตรงกับโรคหัวใจขาดเลือดในเพศชายและเพศหญิง โดยเรียนรู้ประชาชนอเมริกัน เป็นเวลา 24 ปี แล้วก็พบว่าพวกที่มีโคเลสเตอรอล ในเลือดสูงจะมีโอกาสเป็นโรคนี้มากกว่าพวกที่มีไขมันต่ำถึง 5 เท่า โดยปัจจัยเสี่ยงดังที่กล่าวถึงแล้วพบบ่อยในผู้ที่มีระดับ วัวเลสเตอรอคอยล l ในเลือดสูงกว่า 200 มก./ดล. หรือคนที่มี ระดับไตรกลีเซอไรด์สูงยิ่งกว่า 150 มก./ดล
ความดันโลหิตสูง ทั้งความดันสิสโตลิครวมทั้งไดแอสโตลิคมีความสัมพันธ์กับการเกิดโรคหัวใจขาดเลือดในภายหลังทั้งปวง และก็ยิ่งความดันสูงมาก จังหวะที่จะกำเนิดโรคนี้ยิ่งมีมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนที่มีความดันเลือดสูงกว่า 160/95 มม.ปรอท
การสูบยาสูบ ต้นเหตุนี้มีความข้องเกี่ยวกับการเกิดโรคหัวใจขาดเลือดมากและก็ยังขึ้นอยู่กับช่วงเวลาหนสูบรวมทั้ง จำนวนยาสูบที่สูบด้วย โดยพบว่าคนที่ติดการสูบบุหรี่จะมีโอกาส เป็นโรคหัวใจขาดเลือด ได้มากกว่า คนที่ไม่สูบถึง 3 เท่า รวมทั้งถ้ามีปัจจัยเสี่ยงอื่นๆร่วมด้วยอีก จังหวะเป็นโรคหัวใจขาดเลือดยิ่งมากขึ้นเรื่อยๆ
บุคคลที่ทำงานมีความเคร่งเครียดสูง ผู้มีประวัติโรคหัวใจในครอบครัว คนสูงอายุ (ผู้ชายมากยิ่งกว่า 55 ปี หญิงมากกว่า 65 ปี) โรคอ้วน (Body mass index หรือ BMI/ดรรชนีมวลกายมากกว่า30) โรคไตเรื้อรัง บุคคลที่ขาดการออกกำลังกาย มีโรคเครียด
(https://www.picz.in.th/images/2018/03/16/SgvdPR.jpg)



สำหรับเพื่อการเริ่มรักษานั้นนอกเหนือจากที่จะรักษาอาการแล้วผู้เจ็บป่วยทุกรายควรได้รับการแนะนำให้ปรับลดสิ่งที่ก่อให้เกิดความเสี่ยงรวมทั้งควบคุมโรคที่จะทำให้โรคหัวใจขาดเลือดเป็นมากขึ้น ตัวอย่างเช่น การสูบบุหรี่เบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง กินอาหารที่ไม่เหมาะสม โรคอ้วน ขาดการออก พลังกาย และก็ไขมันในเลือดสูงและก็สำหรับวิธีการดูแลรักษาโรคหัวใจขาดเลือดนั้นมี 2 วิธี คือ การดูแลและรักษาด้วยยา ตัวอย่างเช่น ยาขยายเส้นโลหิตหัวใจ ยาลดหลักการทำงานของหัวใจ เพื่อหัวใจใช้ออกซิเจนลดลง ยายับยั้งเกร็ดเลือดเกาะตัว กรณีเป็นความดันโลหิตสูงแตกต่างจากปกติ หรือเบาหวานจะต้องรักษาร่วมไปด้วย คนที่ระดับไขมันในเลือดสูงไม่ปกติก็จะได้รับยาเพื่อลดไขมัน ยาขยายเส้นเลือด บางทีอาจทำในรูปยาอมใต้ลิ้น ยาพ่นเข้าในปาก และก็ยาปิดหน้าอก ยาอมใต้ลิ้น รวมทั้งยาพ่นในช่องปาก สามารถออกฤทธิ์ได้ข้างใน 2-3 นาที จึงเหมาะที่จะพกไว้ในจังหวะเร่งด่วน ยาเป็นแผ่นปิดหน้าอก ใช้ปิดหน้าอกและที่อื่นๆตามร่างกาย จะออกฤทธิ์ประมาณ 30-45 นาที หลังปิดบนผิวหนัง จะไม่ออกฤทธิ์โดยทันทีอาทิเช่นยาอมใต้ลิ้น การรักษาด้วยการผ่าตัด อย่างเช่น การผ่าตัดทำทางเบี่ยงของหลอดเลือด ( Coronary Artery Bypass Graft, CABG) มักจะใช้กรรมวิธีการผ่าตัดนำเส้นเลือดดำที่ขามาตัดต่อกับเส้นเลือดที่อุดตัน ทำฟุตบาทของเลือดใหม่ การดูแลรักษาด้วยการถ่างขยายเส้นเลือดด้วยวิธีต่างๆตัวอย่างเช่น ถ่างขยายด้วยบอลลูน หัวกรอ แล้วก็บางครั้งอาจจะจึงควรใส่ขดลวดค้ำไว้ เพื่อมิให้เส้นเลือดตีบซ้ำ