รับซ่อมแผงวงจรอิเล็กทรอนิกส์

ลงประกาศฟรี => อื่น ๆ => ข้อความที่เริ่มโดย: billcudror1122 ที่ ธันวาคม 23, 2017, 07:01:55 AM

หัวข้อ: สัตววัตถุ ปลาดุก
เริ่มหัวข้อโดย: billcudror1122 ที่ ธันวาคม 23, 2017, 07:01:55 AM
(http://www.คลัง[b][i][url=http://www.disthai.com/][b]สมุนไพร[/b][/url][/i][/b].com/wp-content/uploads/2017/09/%E0%B8%9B%E0%B8%A5%E0%B8%B2%E0%B8%94%E0%B8%B8%E0%B8%81.jpg)
ปลาดุก (http://www.xn--42cg8cuanoj5b9czdzg.com/2017/09/%E0%B8%9B%E0%B8%A5%E0%B8%B2%E0%B8%94%E0%B8%B8%E0%B8%81/)
ปลาดุกเป็นสัตว์เลือดเย็น มีกระดูกสันสันหลัง ปลาที่คนไทยเรียก ปลาดุก หรือ walking catfish นั้น อาจคือปลาน้ำปลาน้ำจืดอย่างต่ำ ๒ จำพวกในสกุล Clariidae  เป็น
๑. ปลาดุกด้าน
มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า  Clarias  batrachus  (Linnaeus)
มีชื่อสามัญว่า walking  catfish
ลางตัวที่มีสีขาวตลอด ประชาชนเรียก ดุกเผือก หรือถ้าเกิดมีสีค่อนข้างแดง  ก็เรียก ดุกแดง  แต่แม้มีจุดขาวบริเวณทั่วลำตัว  ก็เรียก ดุกเอ็น ปลาดุกด้านมีรูปร่างยาวเรียว ยาว  ๑๖-๔๐  เซนติเมตร (ในธรรมชาติบางทีอาจยาวได้ถึง ๖๑  ซม.) รอบๆด้านข้างของลำตัวมีสีเทาผสมดำหรือสีน้ำตาลคละเคล้าดำ รอบๆท้องมีสีค่อนข้างจะขาว ไม่มีเกล็ด ความยาวของลำตัวราว ๖-๗.๕ เท่าของความลึกของลำตัว แล้วก็ราว๓.๕ เท่าของความยาวท่อนหัว หัวค่อนข้างจะแหลมถ้าหากมองทางด้านข้าง กระดูกหัวมีลักษณะตะปุ่มตะป่ำ กระดูกท้ายทอยยื่นเป็นมุมค่อนข้างจะแหลม ส่วนฐานของครีบสันหลังยาวเกือบจะตลอดส่วนหลัง ครีบหลังมีก้านครีบอ่อน ๖๕-๗๗  ก้าน ไม่มีก้านครีบแข็ง ครีบตูดมีก้านครีบอ่อน  ๔๑-๕๘  ก้าน ครีบท้องกลม ครีบอกกลม มีก้านครีบแข็งข้างละ ๑ ก้าน ปลายแหลม เป็นหยักอีกทั้ง ๒ ข้าง ครีบหางแบน ปลายมน ไม่ต่อกับครีบหลังและก็ครีบก้น ตามีขนาดเล็กอยู่ด้านบนของหัว มีหนวด ๔ คู่  หนวดที่ขากรรไกรข้างล่างยาวถึงส่วนปลายก้านครีบแข็งของครีบอก หนวดขากรรไกรบนยาวถึงก้านครีบข้างหลังก้านที่  ๗-๘   หนวดที่บริเวณจมูกยาวเป็น ๑ ใน ๓ ของก้านครีบแข็งของครีบอก  รวมทั้งหนวดคางยาวถึงส่วนปลายของครีบอก ภายในส่วนหัวเหนือช่องเหงือกทั้ง ๒ ข้าง มีอวัยวะพิเศษที่ช่วยสำหรับเพื่อการหายใจ ฟันบนเพดานปากรวมทั้งฟันบนขากรรไกรบนเป็นฟันซี่เล็กๆกระดูกซี่กรองเหงือกมี  ๑๖-๑๙  อัน ปลาดุกด้านมีนิสัยดุ รวดเร็ว รังเกียจอยู่นิ่ง ลุกลี้ลุกลน ถูกใจดำว่ายดำผุดและก็ถูกใจมุดไปตามพื้นโคลนตม ถูกใจว่ายทวนน้ำออกไปจากแหล่งอาศัยในขณะฝนตกแล้วก็น้ำไหลท่วมลงสู่แหล่งน้ำแห่งใหม่ มีความทรหดอดทนต่อสิ่งแวดล้อมที่เรวร้ายได้
๒. ปลาดุกอุย
มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Clarias  microcephalus  Gunther
มีชื่อสามัญว่า  broadhead  walking  catfish
ปลาดุกอุยเป็นปลาที่ไม่มีเกล็ด ลำตัวยาวเรียว ยาว  ๑๕-๓๕  ซม.  สีค่อนข้างเหลือง  มีจุดประตามด้านข้างลำตัวราว ๙-๑๐ แถบ แต่เมื่อโตจะเลือนหายไป ฝาผนังท้องมีสีขาวถึงเหลืองเฉพาะรอบๆอกถึงครีบท้อง ส่วนหัวค่อนข้างจะทู่ ปลายกระดูกกำดันป้านและโค้งมนมากมาย   ท่อนหัวจะลื่น มีรอยบุบตรงกลางนิดหน่อย  มีหนวด  ๔  คู่  โคลนหนวดเล็ก ปากไม่ป้าน ค่อนข้างจะมนครีบอกมีครีบแข็งข้างละ ๑ ก้าง มีลักษณะแหลมคม ยื่นยาวหรือพอๆกับครีบอ่อน ครีบข้างหลังมีก้านครีบอ่อน  ๖๘-๗๒  ก้าน   ปลายครีบสีเทาปนดำและยาวตลอดถึงคอดหาง ครีบก้นมีก้านครีบอ่อน  ๔๗-๕๒  ก้าน ครีบหางกลม ไม่ใหญ่มากนัก สีเทาคละเคล้าดำ ครีบหางไม่ชิดกับฐานครีบหลังรวมทั้งครีบก้น   ปริมาณกระดูกซี่กรองเหงือกราว  ๓๒  ซี่งเมื่อดูผิวเผินทั้งยังปลาดุกด้านและปลาดุกอุยมีลำตัวสั้นป้อมกว่า ลำตัวสีดำปนเหลือง มีจุดเล็กๆสีขาวเรียงเป็นแนวตามแนวขวางลำตัวหลายแถว หรืออาจมองเห็นเป็นจุดประสีขาวตามลำตัว ปลายกระดูกกำดันโค้งมน ปลาดุกเป็นปลาที่พบได้ตามคู ลำคลอง หนอง บึงทั่วๆไป จัดเป็นปลาที่มีคุณค่าทางเศรษฐกิจของไทยชนิดหนึ่ง
ประโยชน์ทางยา
สมุนไพร (http://www.disthai.com/) แพทย์แผนไทยรู้จักใช้ปลาดุกผสมเป็นเครื่องยาในตำรับยาหลายขนาน โดยเฉพาะใน พระตำราไกษย ให้ยาที่เข้า “ปลาดุกปิ้ง” อยู่ ๒ ขนาน อีกทั้ง ๒ ขนานเป็นยาแกง รับประทานเป็นยาถ่ายอย่างแรง สำหรับแก้กษัย ดังนี้ ยาแก้ไกษยปลาดุก เอาเปลือกราชพฤกษ์ (http://www.xn--42cg8cuanoj5b9czdzg.com/2017/07/%E0%B8%9D%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%8A%E0%B8%9E%E0%B8%A4%E0%B8%81%E0%B8%A9%E0%B9%8C/) ๑ กลีบตาเสือ ๑  รากโคนแตง  ๑  พาดไฉนนุ่น ๑  พริกไทย (http://www.disthai.com/16488254/%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B4%E0%B8%81%E0%B9%84%E0%B8%97%E0%B8%A2) ๑ ขิงแห้ง (http://www.disthai.com/16488302/%E0%B8%82%E0%B8%B4%E0%B8%87) ๑  กระเทียม (http://www.xn--42cg8cuanoj5b9czdzg.com/2017/07/%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%A1/)  ๑  ผลจันทน์ ๑  ดอกจันทน์  ๑  กระวาน (http://www.xn--42cg8cuanoj5b9czdzg.com/2017/07/%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%99/)  ๑  กานพลู (http://www.xn--42cg8cuanoj5b9czdzg.com/2017/07/%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%9E%E0%B8%A5%E0%B8%B9/)  ๑  ข่า (http://www.disthai.com/16657359/%E0%B8%82%E0%B9%88%E0%B8%B2)  ๑  กระชาย (http://www.disthai.com/16484907/%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%8A%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%94%E0%B8%B3)  ๑  กะทือ  ๑  ไพล (http://www.disthai.com/16488307/%E0%B9%84%E0%B8%9E%E0%B8%A5)  ๑  หอม  ๑  ขมิ้นอ้อย (http://www.xn--42cg8cuanoj5b9czdzg.com/2017/07/%E0%B8%82%E0%B8%A1%E0%B8%B4%E0%B9%89%E0%B8%99%E0%B8%AD%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%A2/)  ๑  กะปิ  ๑  ปลาดุกย่าง  ๑  ตัว ปลาแดกปลาส้อย ๕  ตัว   ยา  ๒๐  สิ่งนืทำเปนแกง แล้วเอาใบมะกาที่เพสลาดนั้นมาหั่นใส่ลงเปนผัก รับประทานให้ได้ถ้วยแกงหนึ่ง ลงจนสิ้นโทษร้าย หายดีเลิศนัก และยางแกงเปนยารุ ท่านให้เอาเปลือกทองหลางใบมนที่ ๒ เปลือกมะรุม (http://www.disthai.com/16488241/%E0%B8%A1%E0%B8%B0%E0%B8%A3%E0%B8%B8%E0%B8%A1) ๑ ลูกคัดเค้า ๑ เครื่องยาทั้งนี้เอาสิ่งละ ๗ ตัว ปลาดุกย่าง ๑ ตัว เอาใบสลอดที่กินลงที่อ่อนๆนั้น ๗ ใบ หั่นเป็นผักใส่ลง ทำเปนยาเถอะ ลงเสมหะเขียวเหลืองออกมา หายแล